หัวข้อ: ตะลุยเที่ยวสูดอากาศ สัมผัสบรรยากาศที่ "อ่างเกษตรแม่เหียะ" ฉบับเต็ม เริ่มหัวข้อโดย: konhuleg ที่ มิถุนายน 27, 2015, 07:02:04 AM ผมจำไม่ได้ว่าตัวเองไปเจอภาพอ่างเกษตรแม่เหียะมาจากที่ไหน เอาเป็นว่าเห็นครั้งแรกแล้ว รู้สึกอยากไปเลย ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จักตำแหน่งที่ตั้งของมัน รวมทั้งไอ้ภาพที่เห็นเนี่ย ก็ใช่ว่าจะสวยบาดใจมากมายอะไรเยอะ
เหตุผลสำคัญของการอยากมาก สรุปง่ายๆ ได้ว่า อยากมาเฉยๆ และคิดว่าสถานที่แห่งนี้มันหลุดรอดสายตาเราไปได้ยังไง ทั้งๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมาก ผมเริ่มเสาะหาเส้นทางการเดินทางมายังอ่างเกษตรแม่เหียะครับ อยากรู้ว่ามันตั้งอยู่ตรงไหน และจากข้อมูลก็บอกว่า มันตั้งอยู่ภายใน ศูนย์วิจัยสาธิต และฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะ (ส่วนไหนเนี่ย เคยมาสองครั้ง ไม่เคยเจอเลย) ไถๆ หน้าจอมือถือไปเรื่อยๆ ก็เจอข้อมูลคนบอกทางมาในอินเตอร์เน็ต ซึ่งผมจะขออธิบายกันดังต่อไปนี้ พวกเรา (ขออนุญาตเรียกว่า พวกเรา จะได้ดูเหมือนท่านผู้อ่านร่วมทีมมากับผม) จะเริ่มต้นเส้นทางกันที่ทางไปยังวัดพระธาตุดอยคำครับ ขับรถไปถึงวงเวียนที่มีรูปปั้นช้างพ่นน้ำอันเป็นแยกที่จะไปไนท์ซาฟารี อุทยานหลวงราชพฤกษ์ และวัดพระธาตุดอยคำ ให้เลี้ยวมายังเส้นที่จะมาวัดพระธาตุดอยคำกัน จากนั้นขับกันมาเรื่อยๆ จะเจอแยกขวามือให้เลี้ยวเข้ามา (ดูภาพประกอบเอา ภาพแรกเลย) ขับต่อมาอีกผ่านหมู่บ้านดอยคำฮิลล์ไซด์ เจอสามแยกเลี้ยวซ้าย ขับไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอประตูทางเข้าของ ศูนย์วิจัยสาธิต และฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะเอง ซึ่งประตูนี้ น่าจะเป็นประตูด้านหลัง (รึเปล่า) มีเวลาบอกเปิด- ปิด ชัดเจน ตามเวลาราชการ คือ 06.00-18.00 น. ใครมาค่ำกว่านี้ หมดสิทธิ์ หรืออกช้ากว่านี้ ต้องใช้ประตูอื่นแทน เข้ามาด้านใน ผมนี่ร้องอ๋อเลย ว่าตรงนี้เราเคยมานี่หว่าเมื่อ 1 ปีก่อน แถมมากันแบบงงๆ เพราะขับมอเตอร์ไซค์ทะลุมาเฉย และที่จำได้จนร้องอ๋อเนี่ย เพราะชอบบรรยากาศ มันเงียบสงบดี มองกว้างๆ จะเห็นไร่ สวน ของทางศูนย์ มีฉากหลังเป็นภูเขา เห็นผู้คนชอบมาวิ่ง มาปั่นจักรยานออกกำลังกายกัน ร้องอ๋อ ได้ประมาณ 1 นาที ก็เริ่มขับรถหาอ่างเกษตรกันก่อนเลยครับ ขับวนรอบอยู่ 2 ครั้ง จนทะลุไปบ้านสันลมจอย ออกจากศูนย์วิจัยสาธิต และฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะไป ก็เริ่มรู้แล้วว่างานนี้ไม่หมูแน่ พอกลับไปเปิดอ่านข้อมูลในเน็ตดีๆ อีกรอบ ถึงขี่มาค้นพบ เพื่อผู้อ่านจะได้ตามเจอ จากประตูที่ผมพาเข้ามานั้น เลี้ยวขวากันก่อนเลย ขับไปเรื่อยๆ เจอทางแยก ก็เลี้ยวขวาไปอีก เดี๋ยวก็จะเห็นแล้วว่ามีอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก วางตัวอยู่ แล้วไว้ตอนหน้า จะพามาดูว่ามันมีสภาพเป็นอย่างไร ตอน 2 http://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/index.php/topic,8561.0.html#.VY3olhvtmko หัวข้อ: Re: ตะลุยเที่ยวสูดอากาศ สัมผัสบรรยากาศที่ "อ่างเกษตรแม่เหียะ" #1 เริ่มหัวข้อโดย: blacksheep ที่ มิถุนายน 27, 2015, 10:50:49 AM ได้ความสงบ ชอบๆ อยากไป
หัวข้อ: Re: ตะลุยเที่ยวสูดอากาศ สัมผัสบรรยากาศที่ "อ่างเกษตรแม่เหียะ" #1 เริ่มหัวข้อโดย: konhuleg ที่ กันยายน 20, 2016, 04:28:35 PM ไปถึงอ่างเก็บน้ำก่อนอื่นเลยก็ร้องโอโห้ก่อน น้ำตาจะไหล ขับรถวนหานานกว่าจะเจอ ในที่สุดก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าข้าน้อยเรียบร้อยแล้ว
สภาพของอ่างอ่างเกษตรแม่เหียะนั้น เท่าที่เห็นมีขนาดไม่ใหญ่มากครับ น้ำใรอ่างมีค่อนข้างน้อย แม้จะเข้าสู่ช่วงหน้าฝนแล้ว (สงสัยเอาไปใช้ในศูนย์) ตรงริมๆ อ่างที่ผมอยู่จะมีกอบัวแห่งติดโคลนตมพอสมควร ใครมาถ่ายรูปสามารถเอาจุดนี้เป็นโฟรกราวน์กันได้ เงยหน้ามองขึ้นมาจะฉากหลังเป็นภูเขา และป่าเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็มีบ้านอยู่หนึ่งหลังริมอ่าง ให้อารมณ์ประมาณบ้านของฝรั่งที่อยู่ในป่าตามหนังสยองขวัญที่เราเห็น ที่มักจะมีฆาตกรโรคจิตไล่เชือดฆ่าวัยรุ่นที่เข้าไปวุ่นวายยังเขตหวงห้าม บรรยากาศในยามเย็นจัดว่ากำลังดี ไม่มีร้อน หรือเย็นไป ระดับวิวความสวยจาก 10 ให้ไป 6 ไอ้ครั้นจะให้ไปเทียบกับอ่างแก้ว มช. หรืออ่างเกษตร มช. มันไม่โรแมนติกเท่า แต่ก็น่าค้นหาเพราะความพิศวงนี่แหละ ฮ่าๆ จนผมต้องขับรถไปสำรวจดู ว่าบ้านหลังนั้นมันคืออะไร ว่าแล้วก็ซิ่งมอเตอร์ไซค์ไปทันที จากตรงที่ผมอยู่ ขับไปแล้วเลี้ยวซ้ายผ่านอาคารต่างๆ ของทางศูนย์ และจะมีทางมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังนั้น ที่จะเห็นว่าค่อนข้างรกและเปลี่ยว พอไปถึงจากที่คิดไว้ว่าเป็นบ้าน กับเป็นอะไรซักอย่างที่เอาไว้เป็นที่เก็บเครื่องสูบน้ำ? ฉะนั้นพื้นที่ดังกล่าว เลยถูกติดป้ายไว้ว่าห้ามบุกรุก ใครบุกรุกมีโทษทันที พอขับรถออกมาก็เจอคนบุกรุกกันทันทีเลยครับ เป็นนักศึกษา มช. และตากล้องมาถ่ายภาพแถวนั้น โดยใช้บรรยากาศรอบๆ ริมอ่างเป็นโลเคชั่นในการถ่ายภาพ นี่ถ้าเจ้าหน้าที่มาเจอ ก็ไม่รู้ว่าจะทำหน้ากันยังไงนะ แต่ถ้าเจอฆาตกรโรคจิตไล่เชือด อันนี้มีวิ่งหนีแน่นอน ฮ่าๆ วิ่งแบบไม่ต้องรอกันเลย ก่อนกลับจากอ่างเกษตร และจะไปดูส่วนอื่นๆ ผมแวะเดินขึ้นมาด้านบนที่เป็นเนินอยู่ใกล้ๆ อ่างกันครับ ตรงนี้จะมีองค์พระพุทธแสนญาติที่ถูกสร้างไว้ และได้ประดิษฐานที่สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะ เป็นเวลานานกว่า 10 ปี แล้ว ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั้งภายในมหาวิทยาลัยและประชาชนโดยทั่วไป และถัดไปใกล้ๆ กันนั้นมีอาคารขนาดเล็กเป็นที่จัดแสดงเกี่ยวกับโครงการหลวงของในหลวง รวมทั้งโครงการอื่นๆ เอาไว้ให้อ่านกันพอเป็นความรู้ แต่วันที่ผมไปปิดตายนะครับ และน่าจะถูกปิดกันมานานแล้วล่ะ เมื่อดูจากสภาพ แล้วตอนหน้า อันเป็นตอนจบ จะพาไปสำรวจพื้นที่ภายในส่วนๆ ที่น่าสนใจภายใน ศูนย์วิจัยสาธิต และฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะกัน หัวข้อ: Re: ตะลุยเที่ยวสูดอากาศ สัมผัสบรรยากาศที่ "อ่างเกษตรแม่เหียะ" #1 เริ่มหัวข้อโดย: konhuleg ที่ กันยายน 20, 2016, 04:30:41 PM กลับออกมาจากอ่างเกษตรแม่เหียะ ปล่อยให้น้องนักศึกษาพากันถ่ายรูปอย่างสนุกสนานไป ผมก็ขับรถอ้อมๆ เล่นดูภายในศูนย์วิจัย สาธิตและฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะ กันครับ
จุดสำคัญที่น่าสนใจก็คือ รอบๆ แปลงเกษตรซึ่งปลูกพืชผักไว้หลายอย่าง (ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง เพราะไม่ได้เดินลงไปดู รู้แต่ว่ามีข้าวโพด) ให้บรรยากาศที่เย็นสบาย ชวนออกมาเดินเล่นกันสดๆ ส่วนหนึ่งที่มันเป็นเช่นนั้น เพราะได้รับอิทธิพลของการอยู่ใกล้ภูเขา และด้วยเหตุนี้ จึงมีคนชอบมาวิ่งออกกำลังกาย และปั่นจักรยานกันเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางของสิงห์นักปั่นกันเลยทีเดียวเชียว นอกกจากนี้ก็ยังมีบางคนมานั่งเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์กันเฉยๆ ในยามเย็นกัน สุดท้ายก่อนจะลาจาก อยากฝากสาระกันเล็กน้อยเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ ศูนย์วิจัย สาธิตและฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะ แต่เดิมนั้น อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติพิเศษป่าดอยสุเทพกันครับ ก่อนต่อมาเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2509 กรมป่าไม้อนุญาตให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าใช้พื้นที่โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อการเรียนการสอน การวิจัย ทางการเกษตร ปัจจุบันมีพื้นที่ประมาณ 600ไร่ สภาพพื้นที่โดยทั่วๆ ไป จะประกอบด้วยที่ลาดเชิงเขา ที่เนินสลับด้วยพื้นที่บางตอนที่ค่อนข้างราบ มีเทือกเขาดอยสุเทพทอดตัวเป็นแนวยาวห้อมล้อมพื้นที่ทั้งทิศตะวันตกและทิศเหนือ ระดับความสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 300 เมตร จากระดับน้ำทะเล ความลาดชันอยู่ในช่วง 0-15% โดยพื้นที่ค่อยๆ ลาด จากทิศเหนือลงสู่ทิศใต้ ลักษณะดิน มีหลายชุดดินด้วยกัน โดยส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 50 ของพื้นที่ทั้งหมดเป็นดินชุดแม่ริม ร้อยละ 22 เป็นดินชุดห้างฉัตรและนครสวรรค์ ส่วนที่เหลือเป็นดินชุดกำแพงแสน แม่สาย เรณูและสตึก ทั้งนี้ สถานที่ดังกล่าว ใช้เป็นศูนย์วิจัยฯ ที่ให้การสนับสนุนการวิจัย การเรียนการสอน การฝึกอบรม ตลอดจนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการพัฒนา และถ่ายทอดเทคโนโลยีทางด้านการเกษตรที่ดี และเหมาะสมอย่างเป็นระบบ เพื่อความปลอดภัยและความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษได้มาตรฐานระดับสากล สร้างระบบการเกษตรที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพและความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนงานวิจัยของคณาจารย์ บุคลากรทั้งในสถาบันและต่างสถาบัน กันครับ นอกเหนือจากเรื่องที่ว่าประโยชน์ทางอ้อม ยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจแบบกลายๆ และเป็นที่ออกกำลังกายของชาวบ้านแถวนั้น ให้ได้ออกมาวิ่ง มาปั่นจักรยาน เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งนับวันสถานที่แบบนั้นยิ่งหากันได้ยาก โดยเฉพาะในแถวตัวเมือง ซึ่งสามารถนับนิ้วกันได้เลย ส่วนใครที่ยังไม่เคยมาจะรอช้าอยู่ใย รีบมาสัมผัสกันให้ไวครับ แล้วจะรู้ว่า ที่แบบนี้ในอยู่ใกล้ๆ ในเมือง ยังมีให้เราได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์กันอยู่ |