|
หัวข้อ: วัดประจำกษัตริย์ลำดับที่ 12 แห่งราชวงศ์มังราย @ วัดโลกโมฬี เริ่มหัวข้อโดย: Traveller Freedom ที่ พฤษภาคม 08, 2015, 02:22:03 PM วัดประจำกษัตริย์ลำดับที่ 12 แห่งราชวงศ์มังราย @ วัดโลกโมฬี
สถานที่ตั้ง : ถนนมณีรัตน์ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พิกัด : 18.796061,98.982498 วัดโลกโมฬี เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ สืบเสาะวิเคราะห์แล้วมีอายุมากกว่า 500 ปี สร้างในสมัยอาณาจักรล้านนา ตั้งอยู่บริเวณทางทิศเหนือของตัวคูเมืองเชียงใหม่ เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ไทยที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เรื่อง สุริโยทัย และยังมีความสำคัญอีกอย่างคือเป็นวัดประจำรัชกาลของพระเมืองเกษเกล้า กษัตริย์ลำดับที่ 12 แห่งราชวงศ์มังราย วัดโลกโมฬี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2070 โดยพระเกษเกล้า โปรดให้ยกพื้นที่บริเวณบ้านหัวเวียงให้เป็นวัด และได้ดำเนินการสร้างเจดีย์และพระวิหาร จากนั้นหนึ่งปีต่อมาพระเกษเกล้าสวรรคต จึงได้นำอัฐิมาบรรจุไว้ภายในพระเจดีย์วัดโลกโมฬีแห่งนี้ ภายหลังสมัยของพระเกษเกล้า วัดโลกโมฬีได้กลายเป็นวัดร้างมาหลายร้อยปี ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2544 คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ได้ทำการรื้อฟื้นจากการเป็นวัดร้างให้เป็นวัดที่มีพระสงฆ์อยู่จำพรรษา ได้ดำเนินการพัฒนาบูรณะวัดโลกโมฬี จนกระทั่งวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2544 กรมการศาสนาได้อนุมัติให้ยกฐานะให้เป็นวัดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปัจจุบันวัดโลกโมฬีเป็นศูนย์กลางการศึกษาศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน โดยมีการจัดกิจกรรมขึ้นในเทศกาลสำคัญต่างๆ ตลอดปี ในปี พ.ศ. 1910 พญากือนา กษัตริย์ลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์มังราย ทรงให้ราชบุรุษไปนิมนต์พระมหาเถระเจ้ามาสืบศาสนาในล้านนา แต่พระมหาเถระทรงชราภาพมาก จึงให้พระอนันทะเถระและพระเถระที่เป็นศิษย์อีก 10 รูป มาสืบทอดพระพุทธศาสนาแทน ซึ่งคณะสงฆ์เหล่านั้นได้จำพรรษาที่วัดโลกโมฬี อันเป็นสถานที่ใช้ในการต้อนรับพระราชอาคันตุกะต่างเมือง ต่อมาเมื่อพญาเกษเกล้าถูกลอบปลงพระชนม์ในปี พ.ศ. 2088 เหล่าข้าราชการ ขุนนาง ได้ทำพิธีที่วัดแสนนอก นำพระบรมอัฐิมาบรรจุไว้ในเจดีย์ที่วัดโลกโมฬี จากนั้นเสนาอำมาตย์จึงได้ทูลเชิญพระนางจิรประภามหาเทวี พระอัครมเหสี ขึ้นครองราชสมบัติ ขณะนั้นล้านนากำลังอ่อนแอ สมเด็จพระไชยราชาธิราช กษัตริย์แห่งอโยธยา จึงยกทัพมาตีล้านนา แต่ด้วยพระนางจิรประภาได้ถวายเครื่องบรรณาการขอเป็นมิตร พร้อมทูลเชิญสมเด็จพระไชยราชาธิราชเสด็จมาทำบุญที่กู่พญาเมืองเกษเกล้า วัดโลกโมฬี จึงเกิดเป็นสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างสองเมือง ในช่วงเวลาที่เชียงใหม่ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2122 เป็นต้นมา วัดวาอารามต่างๆ ในเชียงใหม่ถูกเผาทำลายไปมากมาย ยกเว้นแต่วัดโลกโมฬีที่ไม่ได้ถูกเผาไปด้วย เนื่องจาก อโนรธาเมงสอ หรือเจ้าฟ้าสารวตี ผู้เป็นราชบุตรของพระเจ้าบุเรงนอง ได้ทรงเมตตาธรรมพระมหาสมเด็จวัดโลกโมฬีไว้ ทำให้วัดแห่งนี้เป็นวัดสำคัญในพระราชสำนักแห่งอาณาจักรล้านนามาโดยตลอด ในปี พ.ศ. 2502 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนวัดโลกโมฬีให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติ และในปี พ.ศ. 2545 ได้มีการเททองรูปเหมือนพระนางจิรประภามหาเทวี มเหสีของพระเกษเกล้า ประดิษฐานไว้ภายในวัดโลกโมฬีแห่งนี้ by Traveller Freedom |