จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

สรงน้ำพุทธาภิเษกกษัตริย์ล้านนา @ วัดเจ็ดลิน

สถานที่ตั้ง : ถนนพระปกเกล้า ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : 18.783715,98.988363

    วัดเจ็ดลิน เดิมเคยมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วัดหนองจลิน" ไม่ปรากฏหลักฐานหรือตำนานเกี่ยวกับวัดนี้โดยตรง แต่พบชื่อและที่ตั้งของวัดนี้ในโคลงโบราณที่ชื่อ “โคลงนิราศหริภุญชัย” สันนิษฐานได้เพียงว่าสร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ. 2060 มีการค้นพบเรื่องราวในสมัยของพระเมกุฏวิสุทธิวงศ์ กษัตริย์ลำดับที่ 17 ของราชวงศ์มังราย กล่าวไว้ว่า กษัตริย์ราชวงศ์มังรายก่อนจะขึ้นเสวยราชย์ทุกพระองค์จะทรงผ้าชุดขาว ณ วัดผ้าขาว จากนั้นจะเสด็จไปสะเดาะเคราะห์ ณ วัดหมื่นตูม และจะเสด็จมาประกอบพิธีสรงน้ำพุทธาภิเษก ณ หนองน้ำภายในวัดเจ็ดลิน ซึ่งจะมีรางน้ำ ในภาษาคำเมืองเรียกว่า "ลิน" ทำด้วยทองคำ หลั่งน้ำพุทธาภิเษกจากสุวรรณหอยสังข์ หล่อลงรางลินเพื่อสรงพระวรกาย แล้วจึงเปลี่ยนเครื่องทรงกษัตริย์ขึ้นเสวยราชย์ต่อไป

    สมัยพม่าปกครองเชียงใหม่ในฐานะเมืองขึ้น ช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2101–2317 ไม่ปรากฏหลักฐานว่า วัดเจ็ดลินมีสภาพเช่นไร แต่เมื่อพระยากาวิละได้ทิ้งเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองร้างไป 20 ปี ช่วงระหว่างนี้วัดเจ็ดลินมีสภาพเป็นวัดร้างอย่างแน่นอน จากหลักฐานที่หน่วยศิลปากรที่ 4 ขุดหารากฐานของวิหาร คุณสถาพร ขวัญยืน หัวหน้าหน่วยศิลปากรที่ 4 ได้สัมภาษณ์ว่า ขุดพบเศียรพระพุทธรูป ลักษณะไม่มีมาลาซึ่งเป็นเศียรพระประธานของวัดนี้ตกอยู่บริเวณด้านหลังของพระประธาน สันนิษฐานว่าเมื่อเมืองเชียงใหม่ร้าง วัดนี้ก็ร้างไปด้วย เศียรพระประธานคงจะชำรุดตกลงเพราะพระศอรับน้ำหนักไม่ไหวจึงตกลงมาด้านหลังของพระประธาน ต่อมาเมื่อชาวบ้านร่วมมือกันบูรณะและสร้างเศียรพระประธานขึ้นมาใหม่อย่างที่แลเห็นอยู่ในปัจจุบัน

    ในอดีตวัดเจ็ดลิน เคยเป็นวัดที่เจริญรุ่งเรืองมาก ทราบได้จากหลักฐานโฉนดที่ดินในปี พ.ศ. 2482 ว่ามีเนื้อที่ 7 ไร่เศษ ภายในวัดมีหนองน้ำขนาดใหญ่สภาพสมบูรณ์อยู่กลางวัด แต่ต่อมากาลผ่านไปกลับกลายเป็นวัดร้างนั้น จนถึงช่วงเวลาที่ได้รับการบูรณะในปี พ.ศ. 2545 โดยพระเทพวรสิทธาจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2546 พระญาณสมโพธิ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้รับมอบหมายจากคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นประธานพัฒนาฟื้นฟูวัดเจ็ดลิน และขอยกเป็นวัดที่มีพระสงฆ์อยู่จำพรรษา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา และพัฒนาหนองน้ำที่กว้างให้คงเป็นหนองน้ำที่ใสสะอาดสวยงาม ให้คงเป็นหนองน้ำแห่งประวัติศาสตร์คู่เมืองเชียงใหม่ต่อมาจนถึงปัจจุบัน

    จุดที่น่าสนใจคือ องค์พระเจดีย์ ที่มีลักษณะเป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมผสมทรงกลม ประกอบด้วยฐานหน้ากระดาน 3 ชั้น รองรับฐานบัวย่อเก็จแบบพิเศษ ที่ประกอบด้วยฐานบัวลูกแก้วสองฐานซ้อนอยู่ในฐานเดียวกัน ลักษณะฐานเช่นนี้เป็นแบบแผนที่พบในสมัยพุทธศตวรรษที่ 21 ลงมา เหนือขึ้นไปเป็นฐานหน้ากระดานย่อเก็จสามชั้นรองรับเรือนธาตุ ที่ซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปทั้งสี่ทิศ แต่ปัจจุบันคงเหลือเพียงซุ้มเปล่าๆ เพราะองค์พระพุทธรูปไม่ทราบว่าหายไป ณ ที่แห่งใดแล้ว ส่วนลวดลายที่ตกแต่งองค์พระเจดีย์ มีลักษณะเหมือนลวดลายที่ตกแต่งซุ้มประตูและเจดีย์องค์ใหญ่ที่ใช้เป็นที่บรรจุพระอัฐิของพญาติโลกราช วัดเจ็ดยอด สันนิษฐานว่าจะได้รับอิทธิพลมาจากวัดเจ็ดยอด และวัดโลกโมฬี

by Traveller Freedom