จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

หลังจากเจอประสบการณ์เที่ยวถ้ำแบบขวัญผวานิดๆ แถว อ.แม่ริม มา ล่าสุดผมก็พาตัวเองกลับไปจุดนั้นอีกรอบ ที่ถ้ำเมืองออน แต่จะเจออะไรยังไง ไว้ตอนนี้ขอเกริ่นเรียกน้ำย่อยกันไปก่อนพลางๆ กันนะจ๊ะ

ราวบ่ายสามโมงของวันนึง ผมจับมอเตอร์ไซค์บิดมุ่งหน้าจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปยัง อ.แม่ออน โดยมีเป้าหมายเป็นถ้ำเมืองออน ใช้เส้นทางหลวง 1006 (เชียงใหม่-สันกำแพง-ออนหลวย) และตามเส้นทางหลวง 1317 (เชียงใหม่-บ้านสหกรณ์) ขับกันไปเรื่อยๆ ประมาณ 50 นาที ก็เป็นอันว่าถึง โดยถ้ำเมืองออนห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 40 กิโลเมตร ด้วยกัน

เส้นทางมายังถ้ำเมืองออน ที่ว่าขับมากันแบบสบายๆ ครับ ทางลาดยางตลอด จะมีแค่ช่วงจากวัดถ้ำเมืองออนไปเท่านั้นที่จะเริ่มชันเล็กน้อย ตามความสูงของเชิงเขา แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการเดินทางอะไร

ไปถึง ก็จ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชม 20 บาท ครับ จากนั้นก็จะเริ่มต้นเดินขึ้นเขา เพื่อมุ่งหน้าไปยังปากทางเข้าถ้ำเมืองออน ที่ อยู่บนภูเขา ตามบันไดนาค 187 ขั้น เดินกันพอให้เหงื่อซึม ก็จะเจอลุงนั่งรอฉีกตั๋ว ใครต้องการไฟฉาย ก็สามารถเช่ากับแกได้ แต่ถ้าไม่ ก็เดินเข้าไปในถ้ำได้เลย

ช่วงแรกที่เดินเข้าไปทางเดินจะชันลงครับ แล้วก็จะเจอเป็นโถงถ้ำ โดยตลอดทางเดินมา จะมีไฟติดไว้เพื่อให้แสงสว่าง สำหรับโถงถ้ำห้องแรกนั้นมีชื่อเรียกว่า “ถ้ำฤๅษี”  เพราะชาวบ้านเชื่อว่าเป็นที่จำศีลของฤๅษีในอดีต จากนั้นพอสับตีนลงไปอีก จะพบกับโถงถ้ำที่ใหญ่กว่า ประดิษฐานพระนอน และพระพุทธรูปตั้งอยู่บนหิ้งเพดานถ้ำ โดยอากาศในส่วนนี่รู้สึกค่อนข้างจะชื้นพอสมควร

จากนั้นเดินกันมาอีกหน่อย บริเวณใจกลางถ้ำจะมี "พระธาตุนมผา" พระธาตุที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ ตั้งตระการตาอยู่ และมีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ อยู่หลายองค์ ตามตำนานมีเรื่องเล่าว่า พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาพักที่ถ้ำเมืองออน  เมื่อครั้งที่พระองค์เดินทางมาเผยแผ่ศาสนาที่หริภุญชัย (เชื่อกันว่าคือจังหวัดลำพูนในปัจจุบัน) จากนั้นพญานาคได้ปลอมตัวเป็นคนเพื่อนำอาหารมาถวาย หลังจากถวายอาหารเสร็จเรียบร้อย พญานาคตนนั้นได้ขอเกศาของพระพุทธเจ้าเอาไว้ และนำมาตั้งในนมผาที่อยู่กลางถ้ำ

หลังจากเห็นศาสนสถานและศาสนวัตถุไปแล้ว ภายในถ้ำตามผนังยังมีหินงอกหินย้อย รูปทรงแปลกตา ซึ่งผมก็ใช้เวลาหลายนาทีพอสมควรกับการดูหินงอกหินย้อยในนั้น พร้อมกับถ่ายภาพไว้ จนมาถึงช่วงของการเดินดูถ้ำเมืองออนตรงช่วงสุดถ้ำพอดี และแล้วจู่ๆ ไฟในถ้ำก็ถูกปิดลงพร้อมกันหมด ทุกอย่างมืดสนิทมองไม่เห็นอะไร

ไว้มาต่ออีกตอน ว่าผมเผชิญชะตาอย่างไรในนั้นคนเดียว โดยที่ตัวเองไม่มีไฟฉาย รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ

บรรยากาศน่าไป ค้นหา  911

อ่านแล้วน่าสนใจ ไปเที่ยว ถ้ำเมืองออน เชียงใหม่

จะว่าไปแล้ว มันค่อนข้างบัดซบพอสมควร กับการที่ผมต้องถูกขังไว้ในถ้ำคนเดียว และทุกอย่างในถ้ำมันมืดไปหมด โดยที่ผมไม่มีแม้กระทั่งไฟฉาย และไม่ได้เอามือถือมาด้วย

ตอนในช่วงจังหวะไฟในถ้ำถูกปิดลงหมดทุกดวง ผมรู้เลยว่าอีลุงที่เฝ้าปากถ้ำคอยเช็คตั๋วเข้าชมของนักท่องเที่ยว เป็นคนสับสวิตซ์ไฟลงแน่ๆ พร้อมล็อคประตูตรงปากถ้ำเตรียมจะกลับบ้าน

นาทีนั้นผมคิดออกอย่างเดียว คือตูจะเดินกลับไปยังทางออกได้ยังไง เพราะมันมืดมาก จนมองไม่เห็นอะไร เหมือนเรากำลังหลับตา แถมรู้สึกถึงรัศมีความน่ากลัวอะไรบางอย่างอยู่ในถ้ำ (แหม ไหนจะเจดีย์ พระพุทธรูปที่มีซากปรักหักพัง ให้บรรยากาศในเชิงเขย่าขวัญ)

บุหรี่ก็ไม่ได้สูบ เรื่องคิดที่จะเอาไฟแช็คมาจุดนำทาง เลิกคิดไปได้เลย สุดท้ายเลยใช้กล้องนี่แหละ โดยใช้ไฟจากหน้าจอกล้องเป็นไฟนำทาง แล้วเลือกเปิดดูภาพที่มันสว่างๆ หน่อย

10 นาที เดินมาถึงประตู ดีที่จำทางออกได้ ประตูถูกล็อคแน่นหนาด้วยกุญแจสองชั้น ปัญหาคือผมจะออกไปยังไง ไม่มีใครอยู่ให้ช่วย ตะโกนออกไป ไม่รู้แม่งจะมีใครได้ยินรึเปล่า ถ้าจะให้งัดออกมา บางทีอาจต้องวานให้ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ในร่างคนเหล็กมางัดให้

นั่งปลงโลกอยู่ 5 นาที คิดว่าคืนนี้ตูได้นอนในถ้ำเมืองออน แบบคนยุคดึกดำบรรพ์แน่ๆ ระหว่างคิดหาแผนสำรอง ไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงหอบๆ จากใครซักคนโผล่เอามา

อีลุงครับ อีลุงกลับมาช่วย แม่เจ้า!

ลุงเดินจากตีนขึ้นมาอย่างหอบแดก แล้วค่อยๆ เปิดประตูออกให้ พร้อมหน้าตาสำนึกผิด ลุงบอกว่าลุงไปขี้มาจากข้างล่าง เลยต้องปิดประตูปากถ้ำไว้ ไม่อย่างงั้นเดี๋ยวลิงจะเข้าไป

"หะ อะไรนะ ที่นี่มันมีลิงด้วยเหรอว่ะ" ผมคิดในใจ แล้วค่อยเรียบเรียงประโยคใหม่พูดออกไปว่า "ที่นี่มีลิงเหรอครับลุง"

ลุงบอกมี ลิงป่านี่แหละ เดี๋ยวมันเข้าไปในถ้ำจะเอาออกมายาก

ฟังจบผมไม่ค่อยเชื่อลุงเท่าไร ลุงอาจจะโกหก หาข้อแก้ตัว เพราะถ้าแค่ลุงลงไปขี้ ทำไมลุงต้องขนตู้บริจาคเอาไปเก็บไว้ในถ้ำด้วย ถ้าทำแบบนั้นมันหมายความว่าลุงกำลังจะกลับบ้าน! แต่ก็ช่างเถอะ อย่างน้อยตอนนี้ผมก็ออกมาจากถ้ำได้แล้ว และคืนนี้ก็ไม่ต้องนอนไส้กิ่วหิวข้าว เป็นมนุษย์ถ้ำไป

และทั้งหมดนั้น คือเรื่องเขย่าขวัญตอนไปเที่ยวถ้ำเมืองออน แบบตะลอนทัวร์ของผมครับ คุณผู้อ่านที่เคารพ

ปล.เรื่องลิงป่ามันมีจริงๆ ครับ ผมเห็นตอนกำลังกลับจากถ้ำ แต่นั่นก็ไม่ทำให้ลุงพ้นความผิด ในฐานะที่ลุงแอบขังผม โดยไม่เช็คให้ดีว่ามีคนอยู่ในถ้ำรึเปล่า