จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ => วัดในจังหวัดเชียงใหม่ => ข้อความที่เริ่มโดย: Ae_Wha ที่ มิถุนายน 25, 2014, 11:28:12 PM



หัวข้อ: จิตรกรรม วิหารลายคำ วัดพระสิงห์
เริ่มหัวข้อโดย: Ae_Wha ที่ มิถุนายน 25, 2014, 11:28:12 PM
          สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกคน วันนี้จะพาไปชมจิตรกรรมเช่นเดียวกันค่ะ แต่วันนี้จะพาไปยังอีกที่หนึ่ง อยู่ในเชียงใหม่เช่นเดียวกันค่ะ วัดนี้ก็คือวัดพระสิงวรมหาวิหารค่ะ และภายในวัดก็จะมีวิหารค่ะ วิหารที่มีภาพจิตรกรรมนั้นชื่อว่าวิหารลายคำนั่นเองค่ะ
   ก่อนอื่นก็ขอเล่าถึงประวัติของวิหารลายคำนี้กันก่อนนะคะ “พระวิหารลายคำ สร้างขึ้นสมัยของพญาธรรมลังกาหรือพระเจ้า ช้างเผือก ระหว่าง พ.ศ.๒๓๕๘-๒๓๖๔ เป็นสถานที่ประดิษฐาน ของพระพุทธสิหิงค์ พระวิหารลายคำสร้างเป็นศิลปะล้านนากว้าง ๘ เมตร ยาว ๓๐ เมตร มีช่อฟ้า ใบระกา หลังคามุงกระเบื้องดินเผาที่มีความสวยงามมาก ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น มีลวดลายทองล่องชาดเทคนิคการฉลุลายปรากฏบนฝาผนังหลังพระประธาน และเสากลางวิหารและเสาระเบียงด้านหน้าพระวิหาร ตลอดถึงบางส่วนของโครงไม้ บนฝาผนังภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เรื่องสังข์ทองและสุวรรณหงส์ เขียนด้วยสีฝุ่นมีความงดงามมาก” (ที่มา http://www.xn--72cai2bycvaff7a7amd2dk4ct9p7bwf5c.com/about7.php#about7_2)

          ประวัติของ จิตรกรรมฝาผนังวิหารลายคำ งานจิตรกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ของเชียงใหม่มีชื่อเสียงมาก ได้แก่ จิตรกรรมฝาผนังในวิหารลายคำ วัดพระสิงห์ ซึ่งตั้งอยู่ ถนนสามล้าน อำเภอเมืองเชียงใหม่ วัดนี้เป็นพระอารามหลวงชั้น "วรมหาวิหาร" สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าผายู กษัตริย์ล้านนาอันดับที่ ๕ แห่งราชวงศ์มังรายครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. ๑๘๗๙ - ๑๘๙๘ เพื่อบรรจุอัฐิและพระอังคารของพระเจ้าคำฟู ผู้เป็นพระบิดา เรียกชื่อว่า "วัดลีเชียงพระ" เนื่องจากบริเวณนี้เดิมเป็นตลาด
ต่อมาพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์ล้านนาอันดับที่ ๗ ครองราชย์ในระหว่าง พ.ศ. ๑๙๒๘ - ๑๙๔๔ โปรดให้อัญเชิญ พระพุทธสิหิงค์มาจากเชียงราย ประชาชนจึงเรียกชื่อวัดพระพุทธสิหิงค์ และเรียกสั้นๆ ว่า วัดพระสิงห์ ตั้งแต่นั้นมา จากการสันนิษฐานของ สน สีมาตรัง กล่าวว่า โครงสร้างสถาปัตยกรรมวิหารลายคำเป็นโครงสร้างเก่าแก่อายุราวพุทธ ศตวรรษที่ ๒๑ - ๒๓ แต่งานช่างทั้งอาคารที่เห็นในปัจจุบันอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๒๓ - ๒๔ แต่ภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นฝีมือ ช่างเขียนในพุทธศตวรรษที่ ๒๕ ซึ่งเขียนขึ้นภายหลัง  (ที่มา http://www.oocities.org/thaibucha_chiangmai/vatpatsen.htm)


หัวข้อ: จิตรกรรม วิหารลายคำ วัดพระสิงห์
เริ่มหัวข้อโดย: Ae_Wha ที่ มิถุนายน 25, 2014, 11:32:06 PM
          ผู้เขียนเองก็ได้เรียนหลายวิชาภายในวิหารลายคำนี้ด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นวิชาเกี่ยวกับการวาดภาพจิตรกรรมลายไทย การเรียนเขียนลายไทยนั้นสนุกดีนะคะ ได้เรียนรู้ศิลปะของไทยเรา ผู้เขียนได้วาดแล้วชอบมากๆ เลยค่ะ และอีกวิชาหนึ่งก็คือวิชาตัวจบของสาขาวิชาที่ผู้เขียนเรียนค่ะ คือสาขาศิลปะไทยค่ะ ก็มีการเปรียบเทียบระหว่างจิตรกรรมวัดบวกครกหลวงและจิตรกรรมวิหารลายคำวัดพระสิงห์

          สิ่งที่เห็นเหมือนกันก็จะเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านทั่วๆ ไปคือว่าผู้หญิงนั้นจะไม่สวมใส่เสื้อแต่จะมีผ้าคลุมและสวมใส่ผ้าซิ่น และผู้ชายเช่นกันค่ะจะไม่สวมใส่เสื้อแล้วจะไม่สวมกางเกงแต่จะเป็นการนุ่งผ้าแทนค่ะ อีกอย่างจะเห็นขาผู้ชายมีสีดำเป็นลายๆ หรือว่าจะเห็นรูปสัตว์ต่างๆ อยู่บนขาของผู้ชาย นั่นก็คือการสักขาลายทั้งขาหรือว่าการสักขาเพื่อกันอันตรายต่างๆ สาเหตุที่ผู้ชายสักขาลายนั่นก็เป็นเพราะเมื่อก่อนผู้คนจะไปอาบน้ำที่แม่น้ำลำคลองค่ะ แล้วถ้าผู้ชายเปลือยเปล่าก็จะเป็นที่น่าอายสำหรับผู้หญิง หรือว่าผู้หญิงมาเห็นก็จะเป็นสิ่งที่น่าเกลียด ผู้ชายก็เลยสักขาลายเพื่อว่าจะเหมือนการใส่กางเกงตอนที่กำลังอาบน้ำอยู่ และการสักเป็นรูปสัตว์ก็มีความเชื่อว่าจะกันอันตรายต่างๆ นี่เป็นจุดสังเกตเห็นเลยว่าจะเหมือนกันแม่ว่าภาพจิตรกรรมอาจจะมีอิทธิพลจากต่างที่กันหรืออยู่ในช่วงสมัยที่แตกต่างกัน แต่ก็มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่เป็นการสืบทอดวัฒนธรรมแบบรุ่นต่อรุ่นค่ะ


หัวข้อ: จิตรกรรม วิหารลายคำ วัดพระสิงห์
เริ่มหัวข้อโดย: Ae_Wha ที่ มิถุนายน 25, 2014, 11:34:03 PM
          คนที่มียศตำแหน่งสูงก็จะเห็นว่าจะมีสีทองเป็นส่วนผสมอยู่บนเสื้อผ้าด้วยค่ะ ส่งผู้ที่เป็นกษัตริย์การแต่งตัวก็จะดูพิเศษกว่าคนที่เป็นชาวบ้าน


หัวข้อ: จิตรกรรม วิหารลายคำ วัดพระสิงห์
เริ่มหัวข้อโดย: Ae_Wha ที่ มิถุนายน 25, 2014, 11:35:07 PM
          ใครได้แวะไปแถวๆ วัดพระสิงห์ก็อย่าลืมแวะเข้าไปชื่นชมภาพจิตรกรรมที่วิหารลายคำนะคะ ภาพจิตรกรรมที่นี่สวยงามและน่าศึกษามากเลยค่ะ อย่าลืมแวะเข้ามาชมกันเยอะๆ นะคะ


หัวข้อ: Re: จิตรกรรม วิหารลายคำ วัดพระสิงห์
เริ่มหัวข้อโดย: touring ที่ มิถุนายน 26, 2014, 10:36:59 AM
ขอบคุณ เรื่องราวดีๆ