หัวข้อ: เยือน วัดบ้านฟ่อน ชื่นชมความงามระหว่างทาง เริ่มหัวข้อโดย: lady darika ที่ มีนาคม 04, 2014, 11:11:51 PM เยือน วัดบ้านฟ่อน ชื่นชมความงามระหว่างทาง
เราออกเดินทางเพื่ออะไร? บางคนเดินทางเพื่อไปทำธุระ บางคนเดินทางเพื่อไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ หลายคนทิ้งงานทิ้งการเพื่อออกเดินทางตามความฝันของตน ทุกคนย่อมมีเป้าหมายที่แตกต่างกันทั้งในแง่ของจุดหมายปลายทาง และจุดประสงค์ที่ออกเดินทาง หลายครั้งปลายทางของเราก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ใจใฝ่หา แต่อาจพบความงดงามบางอย่างระหว่างทางโดยไม่คาดคิด การออกเดินทางครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่เลดี้ ดาริกาค้นพบบางอย่างระหว่างทาง และอยากนำเสนอเพื่อนๆ ค่ะ (http://i.imgur.com/ozzvw3m.jpg) วัดวุฑฒิราษฎร์หรือ วัดบ้านฟ่อน ตั้งอยู่บนถนนหมายเลข ๑๒๖๙ หางดง-สะเมิง ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง เดิมชื่อว่า วัดสันขวางบ้านฟ่อน สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๑๓ โดยพระอธิการชัย อภิชโย แม้ว่าวัดนี้จะเป็นเพียงวัดเล็กๆ ระหว่างทางไปอำเภอสะเมิงเท่านั้น แต่ภายในวัดกลับมีอะไรที่น่าสนใจ และน่าค้นหา (http://i.imgur.com/FwHRdsl.jpg) พระอุโบสถวัดบ้านฟ่อน สีสันฉูดฉาดสะดุดตามากๆ เพียงแค่แรกเห็นวัดนี้ ฉันก็บอกกับตัวเองว่าไม่แวะคงไม่ได้เสียแล้ว รีบเลี้ยวรถเข้าไปเยี่ยมชมภายในวัดกันดีกว่านะคะ บรรยากาศภายในวัดค่อนข้างร้อน เพราะเป็นพื้นปูน และไม่ค่อยมีต้นไม้ สถานที่สำคัญสะดุดตาเมื่อแรกเห็นคือ พระอุโบสถหลังงามใหม่เอี่ยม ประดับตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น และกระจกสีสันต่างๆ (http://i.imgur.com/3E99gHS.jpg) ปูนปั้นคนครึ่งนาคขนาบบันไดทางขึ้นพระอุโบสถ (http://i.imgur.com/2JpzRkZ.jpg) (http://i.imgur.com/nQNeoMQ.jpg) หน้าบันพระวิหารประดับตกแต่งวิจิตรงดงามมาก ตัวอุโบสถตั้งอยู่บนฐานสูงประมาณครึ่งเมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว มีป้ายเตือนชัดเจนว่า สตรีห้ามเข้า ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ และธรรมเนียมปฏิบัติของภาคเหนือ ผู้หญิงก็อย่าเพิ่งน้อยใจไปนะคะ แม้เราจะไม่ได้เข้าไปภายใน แต่เราก็สามารถบูชาพระด้วยใจได้ ว่ากันว่าที่ห้ามสตรีเข้าเขตพระอุโบสถ หรือพระเจดีย์นั้น เพราะเชื่อกันว่าบริเวณดังกล่าวเป็นที่สถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือมีของมีอาคมฝังอยู่ ถ้าผู้หญิงเดินข้ามหรือเหยียบย่ำของอาคมเหล่านั้นอาจเสื่อม และอาจเป็นภัยต่อตัวผู้หญิงคนนั้น เห็นเหตุผลแบบนี้แล้วค่อยเบาใจว่ามีคนเป็นห่วง ฮ่าๆ (http://i.imgur.com/PQUpUVS.jpg) ลวดลายปูนปั้นเหนือบานประตู (http://i.imgur.com/11UHJwu.jpg) (http://i.imgur.com/DcsE8jQ.jpg) ภาพจิตรกรรมด้านหน้าพระอุโบสถ (http://i.imgur.com/00ETQUV.jpg) หน้าบันพระวิหารมีปูนปั้นเป็นซุ้มซ้อนกันขั้นไปหกชั้น ประดับลวดลายพรรณพฤกษา และหมู่เทวดานางฟ้ารำฟ้อน ละเอียดอ่อนช้อยงดงามมาก ใต้ชายคาเป็นปูนปั้นนูนต่ำ ๑๒ นักษัตร เสาทุกต้นประดับปูนปั้นบนพื้นกระจก ราวบันไดทั้งสองข้างขนาบด้ายคนครึ่งนาค ซุ้มประตูทางเข้าโดดเด่นด้วยลายพญานาค และพรรณพฤกษาบนพื้นกระจกสีต่างๆ บานประตูรูปเทวดาถือดาบแกะไม้ ผนังด้านหน้าวาดภาพจิตรกรรมเทวดาและยักษ์เอาไว้ (http://i.imgur.com/3UcGSz0.jpg) พระวิหารวัดบ้าฟ่อน (http://i.imgur.com/lpHOdFj.jpg) กรอบประตูพระวิหาร พระวิหาร ตั้งอยู่กลางวัด สถาปัตยกรรมล้านนา หน้าบันมีลายปูนปั้นพรรณพฤกษาบนพื้นกระจกสีเขียว ซุ้มประตูรูปสามเหลี่ยม ด้านบนมีนกยูงสัญลักษณ์ของล้านนา บานประตูเป็นงานไม้รูปเทพพนม ผนังด้านหน้าเป็นจิตรกรรมรูปนางอัปสรโปรยดอกไม้ (http://i.imgur.com/RlclFxC.jpg) พระเจดีย์ อยู่ด้านหลังพระวิหาร องค์เจดีย์ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมสองชั้น เหนือขึ้นไปเป็นฐานยกสูงมีซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่ทั้งสี่ด้าน ถัดขึ้นไปเป็นองค์เจดีย์ทรงระฆังคว่ำ ส่วนยอดเป็นฉัตรสีทองเจ็ดชั้น (http://i.imgur.com/BQvcFrT.jpg) ศาลาพระนอน (http://i.imgur.com/Wbo4Tx9.jpg) ชมความงามของอาคารสถานต่างๆ ภายในวัดกันจบอิ่มใจแล้ว ก็อย่าลืมไปกราบ ครูบาดวงดี ยติโก เพื่อขอพรและเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ถือว่าอริยสงฆ์สำคัญรูปหนึ่งของล้านนาที่มีอายุพรรษามากที่สุด ในเดือนตุลาคมปีนี้ (๒๕๕๗) จะมีอายุครบ ๑๐๐ พรรษา ท่านเป็นทั้งพระนักพัฒนา และปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรมอย่างเคร่งครัด คอยอบรมสั่งสอนพระสงฆ์ สามเณร และชาวบ้าน จึงเป็นที่เคารพของชาวเชียงใหม่ และประชาชนในจังหวัดใกล้เคียง เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา 901 |