จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

          อย่าเพิ่งเบื่อกับการอ่านและดูรีวิวของร้านนี้กันนะคะ ในรีวิวนี้จะได้เห็นอะไรแปลกๆ หลายอย่างค่ะ บางอย่างอาจจะเป็นสิ่งเก่าที่ร้านนี้เคยมี แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วก็ได้ ลองดูนะคะ
          หลายๆ คนชอบมาร้านนี้ เพราะร้านนี้มีการตกแต่งแนวๆ และอีกอย่างก็เป็นร้านของศิลปินชาวไทยคนหนึ่งที่ชอบพูดๆๆๆ แล้วก็พูดๆๆๆๆ พูดเป็นอาชีพเลย (คนก็ชอบที่เค้าพูดด้วยนะ (ติดกันทั่วประเทศเลยก็ว่าได้)) คนคนนี้ชอบงานศิลปะ มีแนวและเอกลักษณ์ในงานที่ส่วนตัวมากๆ พูดแบบนี้ใครๆ ก็คงรู้กันแล้วซินะคะ เค้าคนนั้นก็คือโน๊ต อุดม แต้พานิช กับร้าน  i berry   

          ใครๆ มาเชียงใหม่ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องมาที่ร้าน I-berry ของโน๊ต ที่อยู่นิมมานซอย 17 ร้านนี้มีบริเวณที่ใหญ่ และค่อยข้างกว้างพอสมควร ขี่รถมาถึงหน้าร้าน ก็จะเห็นที่จอดรถที่จอดได้ประมาณ 8-10 คัน และบ้านฝั่งตรงข้ามคงไม่อยากให้ไปจอดขวางทางเข้าออก คุณโน้ตก็เลยเอาป้ายห้ามจอดไปวางไว้ให้ เป็นรูปหนูน้อย น่ารักดี สีเหลืองเด่น อยู่ตรงถนน ทำให้รู้เลยว่ามาจากร้าน  i berry

          จอดรถเสร็จก็เดินเข้าไปในบริเวณร้านที่เป็นสนามหญ้าเขียวขจี กว้างขวาง ทางเข้าจะเป็นทางเดินที่นำไปสู่ตัวร้าน ซึ่งเป็นซีเมนต์ทำเป็นรูปวงกลมขนาดใหญ่ เจาะรูที่ริมด้านใดด้านหนึ่ง วางสลับซ้ายขวาและด้านข้างที่ทำให้เห็นเป็นทางเดินชัดเจนก็คือ เชือกหรือเส้นพลาสติกที่มีสัญลักษณ์ว่าห้ามเข้า (ห้ามเดินลัดสนาม) เป็นแนวยาวไปจนถึงหน้าตัวร้านเลย แต่ไม่เพียงเท่านั้นนะคะ ด้านซ้ายมือเราจะเห็นสิ่งที่สะดุดตาสิ่งหนึ่ง เป็นสิ่งที่ใหญ่ยักษ์มโหฬาร คือหมาสีเหลือที่หน้าของมันเหมือนกับหน้าของโน๊ต และในแต่ละฤดูกาลหมาตัวนี้ก็จะมีการแต่งกายหรือมี props ที่แตกต่างกันออกไป ส่วนด้านขวาของเราถ้าเป็นเมื่อก่อนเราจะเห็นคุณตำรวจยืนตะเบ๊ะอยู่ แต่ถ้าในปัจจุบันจะเห็นเป็น เหมาเจ๋อตุงยืนชูมือเป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่า I Love You (ฉันรักเธอ)

          มาถึงทางเข้าตัวร้านเราจะเห็นด้ามจับของประตูที่ไม่มีทางซ้ำใครอย่างแน่นอน ด้ามจับประตูเป็นรูปปืน อย่างว่าแหละโน้ต เป็นผู้ชาย ตอนเด็กๆ คงชอบเล่นปืนของเล่น และนั่นคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับเค้าในการเอามาประดับที่ร้านไอติมของตัวเอง

          เดินเข้าประตูมาก็จะเห็นเคาน์เตอร์และเมนูต่างๆ เป็นสีหวานแหววมาก ไอติมร้านนี้มีรสชาติแปลกๆ ค่ะ เช่น รสมะม่วงพริกเกลือ รสมะยม รสกระท้อน รสข้าวหอมมะลิ เป็นต้น ด้านข้างเคาน์เตอร์จะเป็นทางเข้าของพนักงาน มีการวทำรูปกราฟิตี้เป็นรูปป๋าเทพ ดูแล้วเท่มาก ข้างๆ เป็นเบอร์โต๊ะ เราอยากได้เบอร์อะไร ก็ไปหยิบได้ หรือบางทีพนักงานก็จะเป็นคนหยิบให้

          ตรงประตูทางเข้าร้านด้านซ้ายก็จะเป็นจุดบริการน้ำดื่มที่มีไว้สำหรับบริการตนเอง ใช้ขันน้อยใส่น้ำแทนแก้วน้ำค่ะ เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมนะคะ

          มีมุมงานศิลปะแปลกๆ อยู่สองมุมด้วยค่ะ ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันว่าโน้ตอยากจะสื่ออะไร เราก็ลองจินตนาการดูก็ได้ค่ะ

          เมื่อมองไปด้านบนก็จะเห็นโคมไฟหน้าตาประหลาดๆ อยู่ 3 อัน แต่ล่ะอันเป็นการนำแก้วน้ำมารวมกัน แบบแรกเป็นแก้วกาแฟโบราณแบบที่เป็นสีๆ นำมาวางเรียงซ้อนๆ กันทำให้เหมือนแชนเดอเลยร์ แบบที่สองเป็นแก้วน้ำพลาสติกที่เราดื่มน้ำตามร้านก๋วยเตี๋ยว นำมาวางซ้อนๆ กันไปมา และแบบสุดท้ายเป็นการนำถ้วยไอติมที่เป็นแก้วแบบใสมาวางเรียงซ้อนๆ กัน

          ออกมาข้างนอกด้านข้างร้าน จะเป็นบรรยากาศข้างนอกแบบชิวๆ เดินไปข้างหลังหน่อยก็จะมีพื้นที่สำหรับปิ้งมันออกมาจากประตูด้านข้างร้านแล้วธรรมดาเราจะเห็นเจ้าหัวโน๊ตสีชมพูที่สามารถสวมหัวแล้วเราก็ทำท่าอะไรก็ได้ภายใต้หัวนั้น ก่อนจะมีหัวนั้นเป็นรูปแพนด้าค่ะ เพราะตอนเปิดร้านใหม่ๆ เป็นช่วงที่แพนด้ากำลังบูมที่เชียงใหม่ค่ะ แต่แพนด้าที่นี่ออกจะโหดนิดหนึ่งอ่ะค่ะ
          ถ้าเดินออกประตูหน้าและเดินไปข้างๆ เราจะพบผนังสีขาว และที่ด้านขวาจะเป็นภาพของ รถแดง รถสี่ล้อ หรือรถสองแถว (มีหลายชื่อค่ะ) วิธีการเดินทางของคนเชียงใหม่ค่ะ เราจะใช้สี่ล้อแดงนี่แหละค่ะ คล้ายๆ แท็กซี่ หรือ รถเมล์ หรือ รถตู้

          สุดท้ายอยากจะแนะนำน้องชายของคุณโน้ตค่ะ หรือว่าพนักงานตอนรับแขกประจำร้าน i berry เค้ามีชื่อว่า “ซื่อบื้อ” เค้าทำหน้าที่ต้อนรับแขกได้ดีมากค่ะ เดินไปทักทายผู้คนทุกโต๊ะในร้านเลยค่ะ เป็นสีสันของร้านไปอีกแบบค่ะ

          ร้านนี้ก็เปิดมานานล่ะ ผู้เขียนก็ได้ไปมาตั้งแต่เปิดใหม่ๆ เห็นผลงานศิลปะของคุณโน๊ตที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เหมือนได้ดูนิทรรศการหมุนเวียนเลยค่ะ มาร้านนี้แล้วสนุกไม่เบื่อแน่นอนค่ะ

ขอบคุณที่แนะนำ ร้านไอติมชื่อดังของเชียงใหม่
ที่ใครๆเวลามาเที่ยวมักจะถามหาอยู่เสมอ  :onio: