จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

แนะนำสถานที่น่าเที่ยวในภาคเหนือ => แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในภาคเหนือ => ข้อความที่เริ่มโดย: konhuleg ที่ สิงหาคม 26, 2013, 02:05:47 AM



หัวข้อ: วัดจามเทวี กับเจดีย์กู่กุด อันสวยงาม
เริ่มหัวข้อโดย: konhuleg ที่ สิงหาคม 26, 2013, 02:05:47 AM
(http://upic.me/i/jy/q5114.jpg) (http://upic.me/show/46711678)

นอกจากวัดพระธาตุหริภุญชัยแล้ว ก็มีวัดจามเทวีเนี่ยแหละที่ผมมาบ่อยสุดในลำพูน ซึ่งถ้าจะให้เปรียบ วัดพระธาตุหริภุญชัยก็คงเหมือนพระเอก ส่วนวัดจามเทวีคงเหมือนพระรอง แต่คงเป็นพระรองที่สง่างาม และมีความสำคัญทั้งทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี 

(http://upic.me/i/qm/img_4199.jpg) (http://upic.me/show/46711685)
 

วัดจามเทวี หรืออีกชื่อหนึ่งที่โดยทั่วไปเรียกกันว่า วัดกู่กุด  ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าสร้างตั้งแต่สมัยใด  ส่วนใหญ่เป็นการสันนิษฐานจากเอกสารชั้นหลัง  ประกอบกับตำนานและนิยายซึ่งกล่าวกันว่า พระราชโอรสของพระนางจามเทวี คือ พระเจ้ามหันตยศ และพระเจ้าอนันตยศ โปรดให้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อถวายพระเพลิง แล้วโปรดให้สร้างเจดีย์เหลี่ยมมียอดหุ้มด้วยทอง เรียกชื่อว่า สุวรรณจังโกฏิ

(http://upic.me/i/mm/dv526.jpg) (http://upic.me/show/46711683)

(http://upic.me/i/7j/ds115.jpg) (http://upic.me/show/46711679)

แต่จากการที่ได้พบศิลาจารึกวัดกู่กุดบริเวณเชิงพระธาตุเจดีย์กู่กุด ศิลาจารึกหลักนี้ กล่าวถึงการปฏิสังขรณ์รัตนเจดีย์กู่กุด  ว่าได้หักพังลง เนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ได้เกิดขึ้นในสมัยนั้น  ฉะนั้นลักษณะทางศิลปกรรมของพระเจดีย์ที่วัดกู่กุดนี้ น่าจะอยู่ในสมัยของพระเจ้าสรรพสิทธิ์คือ พุทธศตวรรษที่ 17 และน่าจะไม่เก่าเกินรัชกาลพระเจ้าสวาธิสิทธิ์ หลังจากนั้นวัดนี้ก็คงถูกปล่อยให้ทิ้งร้างจนกระทั่ง พ.ศ. 2479 เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ได้อาราธนาครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา มาช่วยก่อสร้างโบสถ์  วิหาร  กุฏิ   ตลอดจนบูรณะปฏิสังขรณ์โบราณสถานที่สำคัญภายในวัด แล้วสถาปนาวัดจามเทวีขึ้นใหม่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2480 มีชื่อว่า วัดจามเทวี จนกระทั่งทุกวันนี้

(http://upic.me/i/ev/pk113.jpg) (http://upic.me/show/46711677)

(http://upic.me/i/7d/aph24.jpg) (http://upic.me/show/46711681)

ส่วนโบราณสถานที่สำคัญในวัดจามเทวีอย่างแรกเลย คือ พระเจดีย์กู่กุด ที่มีลักษณะรูปแบบทางสถาปัตยกรรมเป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมก่อด้วยศิลาแลง  ฐานล่างทำเป็นหน้ากระดานสามชั้น องค์เจดีย์มีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม ซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไปห้าชั้น แต่ละชั้นจะมีซุ้มจระนำ ด้านละสามซุ้ม ภายในซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปปางประธานอภัย เป็นพระพุทธรูปปั้นหุ้มศิลาแลงแบบนูนสูง  รวมทั้งหมด  60 องค์  ซุ้มจระนำทำเป็นซุ้มโค้งแบบสองหยัก ซึ่งเป็นลักษณะซุ้มสมัยทราวดีตอนปลาย  กระหนกปั้นเป็นกระหนกผักกูด  ตัวเหงาที่ปลายซุ้มเป็นแบบทราวดีบริเวณมุมทั้งสี่ของแต่ละชั้น ยกเว้นชั้นบัวกลุ่ม และปล้องไฉน  ส่วนยอดบนสุดได้หักหายไปจึงมีการเรียกเจดีย์องค์นี้ว่า เจดีย์กู่กุด

(http://upic.me/i/4j/16927.jpg) (http://upic.me/show/46711684)

(http://upic.me/i/rm/reb22.jpg) (http://upic.me/show/46711680)

อีกหนึ่งโบราณสถานสำคัญของวัดเป็นรัตนเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่ทางขวาของวิหาร สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระยาสรรพสิทธิ์ ฐานล่างสุดเป็นรูป 8 เหลี่ยม มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4.40 เมตร สูงจรดยอด 11.50 เมตร องค์เจดีย์เป็นรูปสี่เหลี่ยม แต่ละเหลี่ยมเจาะเป็นซุ้ม ประดิษฐานพระพุทธรูปยืน ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์

(http://upic.me/i/y5/kf112.jpg) (http://upic.me/show/46711676)

(http://upic.me/i/01/tb025.jpg) (http://upic.me/show/46711682)

ด้วยสถาปัตยกรรมความงามของเจดีย์กู่กุดและรัตนเจดีย์ ที่มีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี  วัดจามเทวีจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ทุกคนห้ามพลาดในการแวะมาเยี่ยมชมครับ