หัวข้อ: ดอยภูคา เสน่ห์มนต์ขุนเขาเมืองน่าน เริ่มหัวข้อโดย: Pitibank ที่ กรกฎาคม 11, 2013, 12:38:24 PM ครั้งหนึ่งในชีวิตได้ไปเที่ยวสัมผัสที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อ.ปัว จ.น่าน เมื่อวันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ เมื่อปี 2554 2 ปีที่แล้วละครับ ไปคนเดียวตอนนั้น ประทับใจมากๆ เพราะไปน่านเป็นครั้งที่ 2 และไปตะลุยดอยที่นอกเมืองด้วย ก็นั่งรถออกกลางคืนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ของวันนั้น นั่งรถเมล์เขียวของบริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง รอบ 4 ทุ่มครึ่ง มาถึง อ.ปัว จ.น่าน ตอนตีสี่กว่าๆ ก็หาอาหารมื้อเช้าทานเลย หิวแล้วครับที่ 7-11 ที่ อ.ปัว เพื่อรอขึ้นรถสองแถวสีน้ำเงินปัว-ภูคา-บ่อเกลือ ลงที่หน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ถนนหนทางขึ้นดอยภูขาสูงชัน วิวทิวทัศน์กว้างขวาง โล่งมาก ค่อนข้างเป็นภูเขาหัวโหล้นครับ เพราะทำไร่เลื่อนลอยกันเยอะ พอขึ้นดอยสูงๆ ก็เริ่มเจอป่าสน เห็นต้นดอกเสี้ยวสีขาวบานสะพรั่งเต็มหน้าผา สวยงามมากๆ ซึ่งดอกเสี้ยวสีขาวถือเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดน่านด้วยครับ พอมาถึงหน้าที่ทำการก็หอบกระเป๋าไปพักที่หน้าที่ทำการอุทยานฯ ก่อน เพื่อชมนิทรรศการที่จัดอยู่ข้างใน ซึ่งบรรยายถึงสภาพแวดล้อม ภูมิประเทศของดอยภูคา พร้อมกับชนิดของสัตว์ป่า พันธุ์ไม้ ดอกไม้ที่พบที่ดอยภูคา จากนั้นก็หอบกระเป๋าไปพักที่บ้านเกวียนครับ เหนื่อยมาก เพราะทางขึ้นไปพักชันมาก หอบคนเดียวเองเลย 555 ที่พักก็คืนละ 300 บาท ได้จองล่วงหน้าทางอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้วครับ จากนั้นผมก็อาบน้ำ แต่งตัวไปเดินป่าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติวงรอบเล็กระยะทาง 1.5 กม. ความจริงมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติวงรอบใหญ่ต่อด้วยอีก 3.5 กม. แต่ผมเดินไม่ไหวแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน ระหว่างทางก็เดินสำรวจต้นไม้ ทางค่อนข้างแคบครับ หน้าฝนต้องเดินอย่างระมัดระวังนี่ก็เป็นช่วงปลายหน้าหนาวด้วย ระหว่างทางก็มีสะพานข้ามลำธารด้วย จุดประสงค์ของการเดินป่าครั้งนี้ก็เพื่อมาชมดอกชมพูภูคา ซึ่งจะบานทุกปี ตอนช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนมีนาคมพอดีครับ และดอกไม้ชนิดนี้ยังพบได้เพียงที่เดียวในโลกที่อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ รวมถึงต้นเต่าร้างยักษ์ ซึ่งเป็นปาล์มดึกดำบรรพ์ใกล้สูญพันธุ์ที่พบ ณ ที่นี้ด้วยเหมือนกันครับ สามารถชมได้ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้ ก็เดินป่าจนถึงเย็น จากนั้นก็รับประทานอาหาร อาบน้ำเข้านอน เพื่อเดินทางท่องเที่ยววันต่อไป จุดหมายวันต่อไปก็คือการไปเที่ยวต้นชมพูภูคาที่ริมถนนครับ ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 5 กม. ความจริงลืมบอกไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา นั่งสองแถวหรือขับรถมาจาก อ.ปัว 21 กม.ครับ นั่งไป ชมวิวข้างทางไป เป็นถนนลอยฟ้า วิวสวยครับการไปชมดอกชมพูภูคา ผมได้โบกรถสองแถวปัว-บ่อเกลือที่นั่งมาเมื่อวานครับ แต่เมื่อวานเป็นรถคันใหญ่ วันนี้เป็นรถสองแถวคนัเล็กครับ ข้างทาง จะเห็นภูเขาสูงชัน ได้กลิ่นไอธรรมชาติเต็มที่ ขุนเขายิ่งใหญ่มากๆ ครับ มีมนต์เสน่ห์ขลังที่ยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ สมควรเป็นแหล่งต้นน้ำธรรมชาติที่ควรอนุรักษ์ไว้ครับและผมทราบมาว่าดอยนี้เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำน่านด้วยครับ พอถึงตรงจุดชมต้นชมพูภูคา โชคดีที่ผมมาถูกเวลา ดอกชมพูภูคามีลักษณะเป็นสีชมพู คล้ายทรงระฆังคว่ำอยู่เป็นพวงๆ บานเต็มต้นเลย มีผู้คนจากทุกสารทิศมาเที่ยวชมกันมาก ใกล้ๆ กับต้นชมพูภูคาก็มีศาลเจ้าพ่อภูคา ผมก็ไหว้สาท่านด้วยครับ จากนั้นผมก็เดินทางต่อไปลานดูดาว อยู่ใกล้ๆ ต้นชมพูภูคาไม่กี่เมตร ตรงจุดนี้เป็นลานกางเต๊นท์ เหมาะสำหรับดูดาวตอนกลางคืน เพราะเป็นมุมที่เห็นภูเขาสลับซับซ้อน โล่ง กว้าง ฟ้าเปิดด้วยครับ มีร้านอาหาร ห้องน้ำบริการด้วย มีต้นดอกเสี้ยวให้ชมด้วย ที่อุทยานแห่งชาตินี้มีต้นดอกเสี้ยวเยอะมาก รวมถึงที่ทำการด้วยครับ มันจะออกช่วงต้นฤดูร้อนนี้พอดี บานสะพรั่งเต็มดอยทุกต้นเลยครับ มีกลิ่นหอมด้วยถ้าเข้าไปใกล้ๆ พอดีได้เวลาใกล้เย็นแล้วผมก็ขอใช้บริการนั่งรถกลับที่พักกับนักท่องเที่ยวคนอื่่นให้ไปส่งที่่ที่ทำการ ใจดีมากๆ ครับ พอถึงที่ทำการผมก็เข้าที่พัก จัดการธุระ เก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย เพื่อกลับเชียงใหม่ในวันพรุ่งนี้ครับ สนุกมากทริปนี้ มาครั้งแรก ลุยเดียว คุ้มค่าและปลอดภัย กลับบ้านโดยสวัสดิภาพครับ ^_^
เขียนโดย ปิติภัทร มาทา หัวข้อ: Re: ดอยภูคา เสน่ห์มนต์ขุนเขาเมืองน่าน เริ่มหัวข้อโดย: nanan ที่ กรกฎาคม 11, 2013, 02:10:43 PM 903 903 903 ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ดอยภูคา เสน่ห์มนต์ขุนเขาเมืองน่าน เริ่มหัวข้อโดย: auto ที่ กรกฎาคม 26, 2013, 09:02:05 PM เยี่ยมเลยข้อมูลดีๆ
หัวข้อ: Re: ดอยภูคา เสน่ห์มนต์ขุนเขาเมืองน่าน เริ่มหัวข้อโดย: teerawoot tapala ที่ พฤศจิกายน 05, 2013, 11:42:10 PM เยี่ยมไปเลยครับ
|