จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ => วัดในจังหวัดเชียงใหม่ => ข้อความที่เริ่มโดย: lovechiangmai ที่ เมษายน 01, 2007, 12:57:18 PM



หัวข้อ: วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: lovechiangmai ที่ เมษายน 01, 2007, 12:57:18 PM
ชมเจดีย์ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ ไหว้เสาอินทขิล

เป็นวัดที่มีเจดีย์ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของ จ. เชียงใหม่ ปัจจุบันยอดเจดีย์ได้หักพังลงมาเมื่อคราวเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2088 วัดเจดีย์หลวงจึงเป็นโบราณสถานอันเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

สิ่งที่น่าสนใจ

อ้างถึง
เจดีย์หลวง สร้างในสมัยพญาแสนเมืองมา เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ลำดับที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย (พ.ศ. 1931-1954) เพื่ออุทิศส่วนกุศลถวายแด่พญากือนา พระราชบิดา แต่ยังสร้างไม่เสร็จก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน พระมเหสีได้ควบคุมการก่อสร้างต่อจนแล้วเสร็จในสมัยพระยาสามฝั่งแกนเรียกกันว่า “กู่หลวง” แรกสร้างเป็นเพียงเจดีย์องค์เล็ก ๆ ทรงสี่เหลี่ยม ฐานกว้างด้านละ 14 ม. สูง 24 ม.
ต่อมาในสมัยพญาติโลกราช รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์มังราย (พ.ศ. 1985-2030) โปรดให้หมื่นด้ามพร้าคตเป็นนายช่างใหญ่สร้างเสริมพระเจดีย์ใหม่ เริ่มงานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2020 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2024 โดยขยายฐานให้กว้างออกถึง 56 ม. สูง 95 ม. สามารถมองเห็นได้แต่ไกล แล้วอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่มุขด้านตะวันออกขององค์เจดีย์เป็นเวลานานถึง 80 ปี (พ.ศ. 2011-2091)
สมัยพระมหาเทวีจิระประภา รัชกาลที่ 15 แห่งราชวงศ์มังราย (พ.ศ. 2088-2089) ในปี พ.ศ.2088 เกิดภัยธรรมชาติฝนตกหนักและเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เป็นเหตุให้ส่วนยอดหักพังลงเหลือเพียงครึ่งองค์ เกิดรอยร้าวทั่วองค์พระเจดีย์สุดที่จะแก้ไข จึงถูกทิ้งร้างมานานถึง 445 ปี พ.ศ. 2533 กรมศิลปากรจึงได้ทำการบูรณะจนเป็นดังเช่นปัจจุบัน

(http://www.nairobroo.com/images/province/chiangmai/a_4.jpg)


อ้างถึง
เสาอินทขิล หรือเสาหลักเมือง ตั้งอยู่กึ่งกลางวิหารจตุรมุข ศิลปะแบบล้านนาประยุกต์ เป็นเสาอิฐก่อสอปูนติดกระจกสี รอบเสาวัดได้ 5.67 ม. สูง 1.30 ม. แท่นพระบนเสาอินทขิลสูง 97 ซม. รอบแท่นวัดได้ 3.4 ม. บนเสาอินทขิลมีพระพุทธรูปทองสำริด ปางรำพึง ประดิษฐานอยู่ภายในบุษบก พลตรีเจ้าราชบุตร (วงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่) นำมาถวายวัดเจดีย์หลวงเมื่อปี พ.ศ. 2514 เพื่อให้ชาวเมืองได้สักการะคู่กัน

(http://www.nairobroo.com/images/province/chiangmai/a_3.jpg)


หัวข้อ: Re: วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: max ที่ กรกฎาคม 16, 2007, 06:33:06 PM
beauty image


หัวข้อ: Re: วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: max ที่ กรกฎาคม 16, 2007, 06:40:59 PM
 :)


หัวข้อ: Re: วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: auto ที่ สิงหาคม 21, 2007, 04:34:20 PM
Wat Chedi Luang Temple


หัวข้อ: Re: วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: auto ที่ สิงหาคม 21, 2007, 05:28:04 PM
Buddhist monks at candlelight festival. Chiang Mai Province, Thailand.


หัวข้อ: Re: วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: toto ที่ มกราคม 18, 2009, 11:12:24 AM
600 ปี พระเจดีย์หลวง

      วัดเจดีย์หลวง มีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ ราชกุฏาคาร , วัดโชติการาม สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์ลำดับที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย ไม่ปรากฏปีที่สร้างแน่ชัด สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้น่าจะสร้างในปี พ.ศ.1934 ถ้านับจนถึงปัจจุบันมีอายุ 616 ปี วัดเจดีย์หลวงเป็นพระอารามหลวงแบบโบราณ

       ในหนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ แปลโดย ศาสตราจารย์แสง มนวิฑูร พิมพ์เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2501 กล่าวถึงเจดีย์หลวงว่า "จุลศักราช 289 (พ.ศ.1874) พระเจ้าแสนภู โปรดให้สร้างเมืองเชียงแสน และต่อมาอีก 4 ปีทรงสร้างมหาวิหารขึ้นในท่ามกลางเมืองเชียงแสน" มหาวิหารที่ว่านี้คือวัดเจดีย์หลวงองค์ที่ 1 ซึ่งอยู่ในวัดพระเจ้าตนหลวง เมืองเชียงแสน ปัจจุบันยังปรากฏองค์พระธาตุให้เห็นอยู่

       สมัยพระเจ้าแสนเมืองมา ขณะที่มีพระชนมมายุ 39 ปี พระองค์โปรดให้สร้างพระเจดีย์หลวงกลางเมืองเชียงใหม่ แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จดีก็ทรงสวรรคต พระราชินีผู้เป็นอัครมเหสีของพระองค์ ได้โปรดให้ทำยอดพระธาตุเจดีย์หลวงจนแล้วเสร็จ "พระธาตุเจดีย์หลวงเมื่อสร้างเสร็จ (พระเจ้าติโลกราชสร้างเสริมให้สูงใหญ่ขึ้น) เรียบร้อยแล้ว มีระเบียบกระพุ่มยอดเป็นอันเดียว ฐานกว้างด้านละ 52 ศอก สูง 92 ศอก ก่อด้วยศิลาแลงทั้งสี่ด้าน"

       พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ราชวงศ์มังราย ลำดับที่ 11 โปรดให้หมื่นด้ามพร้าคต ไปจำลองแบบมหาเจดีย์จากเมืองลังกามาสร้างเป็นเจดีย์สูง 43 วา ฐานกว้าง 27 วา เมื่อสร้างเสร็จแล้ว พระเจ้าติโลกราชทรงอัญเชิญพระแก้วมรกต (องค์เดียวกับที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้วในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ) มาจากเมืองลำปาง โปรดให้สร้างซุ้มประดิษฐานไว้ที่ข้างองค์พระเจดีย์ด้านทิศตะวันออก ในสมัยหลังพระแก้วมรกตถูกอัญเชิญไปประดิษฐานอยู่ที่เมืองล้านช้าง ประเทศลาว กระทั่งสมัยรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตกลับมาประดิษฐานที่กรุงธนบุรีและกรุงเทพมหานคร

       ตำนานเมืองเหนือกล่าวถึงการสร้างวัดเจดีย์หลวงในสมัยพระเจ้าแสนเมืองมา ซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้ากือนาว่า "ส่วนเจ้ากือนาตนพ่อ เมื่อละวางอารมณ์ไปแล้ว ก็ได้เป็นอสุรกายรุกขเทวดารักษาต้นไม้นิโครธต้นหนึ่ง อยู่ริมทางเดินที่จะเดินเข้าไปเวียง ขณะนั้นมีพ่อค้าหมู่หนึ่งไปเมืองพุกามมา ก็มาถึงต้นนิโครธต้นนั้นและพักอยู่ เมื่อนั้นรุกขเทวดาก็แสดงบอกแก่พ่อค้าทั้งหลายว่า กูนั้นเป็นพญากือนา กินเมืองเชียงใหม่ที่นี่แล ก็ครบด้วยสหาย มีศิลปอาคมเป็นหมอช้าง ครั้นกูตายก็ได้มาเป็นอสุรกายรุกขเทวดา อยู่รักษาต้นไม้นี้แล กูจะไปเกิดในสวรรค์เทวดาโลกไม่ได้ ให้สูไปบอกแก่ลูกกูเจ้าแสนเมืองมา ให้สร้างพระเจดีย์หลังหนึ่งที่ท่ามกลางเวียง สูงพอคนอยู่ไกลสองปันวาแลเห็นนั่นเถิด จึงให้ทานกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่กู กูจักได้พ้นอันเป็นรุกขเทวดาที่นี่ แล้วจักได้ไปเกิดในสวรรค์"

       เมื่อพระเจ้าแสนเมืองมาทราบความ จึงโปรดให้แผ้วถางที่ แล้วก่อพระเจดีย์สวมทับไว้ แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จพระเจ้าแสนเมืองก็สวรรคตเสียก่อน ต่อมาจึงได้มีผู้สร้างเจดีย์เพิ่มเติมขึ้นภายหลัง ปี พ.ศ.2055 พระราชา (พระเมืองแก้ว) พร้อมด้วยชาวเมืองทั้งหลาย เอาเงินมาทำกำแพงล้อมพระธาตุเจดีย์หลวง 3 ชั้นได้เงิน 254 กิโลกรัม จากนั้นจึงได้เอาเงินมาแลกเป็นทองคำจำนวน 30 กิโลกรัม แล้วแผ่เป็นแผ่นทึบหุ้มองค์พระธาตุเจดีย์หลวง เมื่อรวมกับทองคำที่หุ้มองค์พระเจดีย์หลวงอยู่เดิม ได้น้ำหนักทองคำถึง 2,382.517 กิโลกรัม

       ต่อมาในสมัยพระมหาเทวีจิระประภา ประมาณ พ.ศ.2088 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเชียงใหม่ จึงทำให้ยอดพระเจดีย์หลวงหักพังทลายลงมา หลังจากนั้นพระเจดีย์หลวงจึงถูกทิ้งให้ร้างมานานกว่า 400 ปี กระทั่งปี พ.ศ.2423 พระเจ้าอินทวิชายานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7 ได้รื้อพระวิหารหลังเก่าและสร้างวิหารหลวงขึ้นใหม่ด้วยไม้ทั้งหลัง

       ช่วงปี พ.ศ.2471-2481 สมัยพลตรีเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย ถือได้ว่าเป็นทศวรรษแห่งการบูรณะครั้งสำคัญของวัดพระเจดีย์หลวง ได้มีการรื้อถอนสิ่งปรักหักพัง แผ้วถางป่าที่ขึ้นปกคุลมโบราณสถานต่างๆออก แล้วสร้างเสริมเสนาสนขึ้นใหม่ให้เป็นวัดสมบูรณ์แบบในเวลาต่อมา

       พระเจดีย์หลวง ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่โดยกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2533 ใช้งบประมาณในการบูรณะถึง 35 ล้านบาท แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2535 จนปัจจุบันมีขนาดความกว้างด้านละ 60 เมตร เป็นองค์พระเจดีย์ที่มีความสำคัญที่สุดองค์หนึ่งในเชียงใหม่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมือง

เอกสารประกอบ
1.บุญเสริม สาตราภัย "ลานนาไทยในอดีต" ,2522
2.วัดเจดีย์หลวง พิมพ์ในโอกาสสมโภช 600 ปีพระธาตุเจดีย์หลวง,2538

จักรพงษ์ คำบุญเรือง
[email protected]
8/1/52


หัวข้อ: Re: วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: animaturk ที่ กันยายน 06, 2009, 04:16:51 PM
 :29: เจดีย์หลวง (http://www.thaitravelcommunity.com/travelcommunity/index.php?topic=94.0) สวยๆหลายรูปเลยครับ เป็นอีกวัดที่ยิ่งใหญ่และขึ้นชื่อในเชียงใหม่เลยทีเดียว


หัวข้อ: Re: วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: jinny ที่ กันยายน 18, 2009, 01:07:51 PM
เคยไปชมมาหลายครั้งแล้วค่ะ สวยงามมากจริงๆค่ะ อยากให้ทุกท่านลองแวะไปชมได้นะคะ ไปได้ทุกวันเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: amornrat ที่ กันยายน 27, 2009, 05:25:14 PM
 :01:อยู่ในเมืองค่ะ ไม่ไกลมากนัก วัดสวยมากค่ะ


หัวข้อ: Re: วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: auto ที่ ตุลาคม 18, 2009, 09:21:30 PM
(http://teawchiangmai.com/chiangmaiboard/index.php?action=dlattach;topic=1571.0;attach=8338;image)

ดูภาพ สวยๆ เพิ่มเติมได้ที่

http://teawchiangmai.com/chiangmaiboard/index.php/topic,1571.0.html