จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

ข้อมูล ทริปการเดินทาง ที่พัก โรงแรม ปาย แม่ฮ่องสอน => แนะนำปาย เมืองในฝัน - ที่พัก โรงแรมปาย แม่ฮ่องสอน การเดินทาง => ข้อความที่เริ่มโดย: auto ที่ สิงหาคม 02, 2007, 11:34:26 AM



หัวข้อ: แอ่วปายสัมผัสกลิ่นไอเมืองสามหมอก
เริ่มหัวข้อโดย: auto ที่ สิงหาคม 02, 2007, 11:34:26 AM
คราวนี้มีโอกาสดีอีกครั้ง ที่ได้มาเยือนจังหวัดแม่ฮ่อนสอนเมืองสามหมอก แต่ก่อนเคยสงสัยว่าเหตุใด จังหวัดนี้จึงถูกเรียกว่าเมืองสามหมอก รู้ภายหลังว่าตลอดทั้งปีเมืองนี้ ไม่เคยปราศจากหมอกเลย ทั้งหมอกฝนในฤดูฝน หมอกหนาวในฤดูหนาว และหมอกควันจากการเผาไหม้ของป่าไม้ในฤดูร้อน
       
       แม้ครั้งนี้เราเลือกที่จะย่นระยะทาง ด้วยการนั่งบินจากสนามบินดอนเมืองมาลงยังเชียงใหม่ และค่อยต่อรถมายังแม่ฮ่องสอน แต่ด้วยถนนที่คดเคี้ยวนับ 1,000 โค้ง ก็ต้องนั่งรถกันจนเหงือกแห้งทีเดียว กว่าจะมาถึงตัวเมืองก็เป็นเวลาหลายชั่วโมงเอาการ เมื่อมาถึงเราไม่อยากจะมัวร่ำไรให้เสียเวลา
       
       จึงเริ่มประเดิมด้วยการแวะไปสักการะ"วัดพระธาตุดอยกองมู"หรือชื่อเดิมว่า "วัดปลายดอย" ตั้งอยู่บนดอยกองมูทางทิศตะวันตกของตัวเมือง เป็นปูชนียสถานสำคัญคู่เมืองเมืองฮ่อนสอน ดอยกองมูนี้มีความแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ สามารถมองเห็นยอดดอยได้ ไม่ว่าจะมองจากทิศใดของตัวเมืองก็ตาม

ในภาพ ภาพสะท้อนบนพื้นน้ำของวัดจองคำและวัดจองกลาง


หัวข้อ: Re: แอ่วปายสัมผัสกลิ่นไอเมืองสามหมอก
เริ่มหัวข้อโดย: auto ที่ สิงหาคม 02, 2007, 11:35:29 AM
พระธาตุบนดอยประกอบด้วยพระธาตุเจดีย์ 2 องค์ องค์ใหญ่สร้างโดยจองต่องสู่ เมื่อพ.ศ.2403ใช้เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ ส่วนองค์เล็กสร้างโดย พระยาสิงหนาทราชา พ.ศ.2417 เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก กล่าวกันว่าแต่เดิมดอยกองมูเป็นที่ซ่องสุมของเหล่าโจรเพราะมีลักษณะเป็นป่าทึบ
       
       เมื่อชาวบ้านทนต่อการข่มเหงไม่ไหว จึงพร้อมใจกันตัดต้นไม้จนโล่งเตียน โจรก็หายไปจองต่องสู่และชาวบ้านจึงพร้อมใจกัน สร้างปูชนียสถานเพื่อไว้สักการะ ที่นี่สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองแม่ฮ่อนสอนได้ทั่วทั้งเมือง แลเห็นหมอกปกคลุมได้เด่นชัด

ในภาพ วัดพระธาตุดอยกลางมูปูชนียสถานคู่เมืองแม่ฮ่องสอน


หัวข้อ: Re: แอ่วปายสัมผัสกลิ่นไอเมืองสามหมอก
เริ่มหัวข้อโดย: auto ที่ สิงหาคม 02, 2007, 11:38:17 AM
กลับลงมาจากดอยกองมูเราแวะพักกันที่บริเวณ "หนองจองคำ" สวนสาธารณะใจกลางเมือง เป็นหนองน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในน้ำมีเงาสะท้อนของ"วัดจองคำ" และ"วัดจองกลาง" ที่ตกกระทบอย่างสวยงามแปลกตา จึงแวะเวียนเข้าไปดูความงามใกล้ๆ

วัดสองแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกัน และเป็นสิ่งที่คนมาแม่ฮ่องสอนไม่คราวพลาด แก่การเยี่ยมชมทั้งสองแห่ง สร้างด้วยรูปแบบศิลปะของไทยใหญ่ฟาก "วัดจองคำ"ในวิหารเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่งของเมืองแม่ฮ่องสอน
       
       ส่วน"วัดจองกลาง"ในวิหารมีแท่นบูชาพระพุทธสิหิงค์จำลอง ปิดทองงดงามทั้งองค์แต่ที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวก็เห็นจะหนีไม่พ้น พิพิธภัณฑ์จัดแสดงตุ๊กตาไม้แกะสลัก เป็นรูปคนและสัตว์ ฝีมือช่างสลักชาวพม่าเล่ากันว่า มีเจ้านายในราชวงศ์กษัตริย์พม่า นำตุ๊กตานี้หนีภัยมาจากมัณฑะเลย์เมื่อคราวอังกฤษเข้าตีเมือง
       
       เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่ทันไรก็มืดเสียแล้ว การมาเยือนแม่ฮ่อนสอนในวันแรก หมดไปกันการเที่ยวตามวัดซึมซับวิถีของผู้เสียมากกว่า ยามค่ำคืนที่แม่ฮ่องสอนแตกต่างจากเมืองอื่น ตรงที่ค่อนข้างจะเงียบสงบ ผับ เธค ในเมืองแทบจะไม่มีให้เห็น มีอยู่เพียงที่เดียวที่โรงแรมใบหยกชาเลย์ เท่านั้น
       
       เลยได้นอนเอาแรงแต่หัวค่ำ พอรุ่งเช้าก็โดนเพื่อนพ้องปลุกให้ลุกขึ้นมา ทำบุญตักบาตรตั้งแต่ตะวันยังไม่ทันขึ้น ไหนๆแล้วก็ขอทำบุญต่างถิ่นสักหน่อย เรามารอตักบาตรกันที่ "ตลาดสายหยุด" ตลาดเช้าแห่งเดียวของเมืองแม่ฮ่องสอน
       
       เมื่อได้ทำบุญจนอิ่มใจแล้วก็ขออิ่มท้องบ้าง เพราะมายืนอยู่หน้าตลาดแล้วจะไม่ให้เข้าไปข้างในก็ใช่ที่ ดูโน้นดูนี้ก็ไปเจอของกินแปลกๆ อย่างหนึ่งสอบถามแม่ค้ารู้ว่าเขาเรียกกันว่า ข้าวส้ม
       เป็นข้าวคลุกขมิ้นปั้นเป็นก้อนกลมๆทอดน้ำมันงากินกับพริกเผา เกลือ หอม กระเทียม นั่นเป็นอาหารเช้า ก่อนที่คณะเราจะเดินทางจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไปตะลุยกันต่อที่อำเภอปาย

ในภาพ ทำบุญตักบาตรให้ใจปลอดโปร่งหน้าตลาดสายหยุด


หัวข้อ: Re: แอ่วปายสัมผัสกลิ่นไอเมืองสามหมอก
เริ่มหัวข้อโดย: auto ที่ สิงหาคม 02, 2007, 11:41:35 AM
สำหรับ"ปาย" นั้นเคยได้รับการขนานนามว่า เป็นเมืองลับแล ดินแดนที่ยากจะเข้าถึง เพราะถนนหนทางที่คดเคี้ยวและที่ตั้งแสนจะห่างไกล แต่ก็นั่นแหละมันได้กลายเป็นเสน่ห์ชวนดึงดูดของเมืองเล็กๆแห่งนี้ไป
       
       แต่ว่า"ปาย" ในปัจจุบันนี้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอันโด่งดังไปแล้ว กระนั้นก็ยังมีบางสิ่งที่ยังคงเหมือนเดิม และก็มีบางอย่างที่เปลี่ยนไป สิ่งที่ปายไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนั้นก็คือ ความเงียบสงบและธรรมชาติ อันงดงาม ผสมผสานการอยู่รวมกันอย่างกลมกลืนของคนและธรรมชาติ แม้ปายทุกวันนี้จะเป็นดุจสวรรค์ของนักท่องเที่ยว
       
       แต่ก็ไม่ได้ทำให้เมืองเล็กๆแห่งนี้หลงระเริง ความเงียบสงบยังคงหาได้จากปายเสมอ ส่วนที่เปลี่ยนไปคือความเป็นอยู่ของผู้คน จากทำไร่ไถนา ก็มาค้าขายเป็นร้านรวงเสียก็มาก ชาวต่างชาติล้นเมืองจนบางครั้ง หลงลืมไปว่ากำลังยืนอยู่บนแผ่นดินไทย
       
       มาปายก็ต้องแวะเที่ยวที่ "โป่งน้ำร้อนท่าปาย" เป็นโป่งน้ำร้อนที่อยู่ในป่าฝั่งซ้ายตอนบนของตำบลแม่ฮี้ เป็นพื้นที่ที่มีหมอกควันของไอน้ำร้อนปกคลุมพื้นที่ และมีน้ำร้อนไหลผ่านทั่วเป็นบริเวณกว้าง มีบ่อใหญ่สองบ่อ
       นอกนั้นเป็นน้ำผุดหลายจุด มีความร้อนประมาณ 80 องศาเซสเซียส รอบๆเป็นป่าไม้สัก ที่นี่ตาน้ำจะร้อนจัดจริง แต่เมื่อไหลลงมายังส่วนที่เป็นโตรกธารแล้ว อุณหภูมิจะลดลงไม่ร้อนมาก นักท่องเที่ยวที่มานิยมนั่งแช่เท้าที่ลำธารนี้

ในภาพ   โป่งน้ำร้อนท่าปาย


หัวข้อ: Re: แอ่วปายสัมผัสกลิ่นไอเมืองสามหมอก
เริ่มหัวข้อโดย: auto ที่ สิงหาคม 02, 2007, 11:43:32 AM
เล่นน้ำกันเพลินจนหนำใจแล้ว ไม่ไกลกันนักเราแวะไปสักการะ "เจดีย์พระธาตุแม่เย็น" เป็นเจดีย์ที่ไม่ปรากฏว่าสร้างในสมัยใดอยู่บนเนินเขาสูงที่นี่ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ทั่วเมืองปาย ดื่มด่ำทัศนียภาพเมืองปายแม้จะไม่ใช่ช่วงเช้า แต่ทว่าเมืองนี้ก็ยังมีม่านหมอกสีขาวเจือจางลอยเรี่ยอยู่ทั่วไป
       
       จากวัดพระธาตุแม่เย็นมาต่อกันที่ "วัดน้ำฮู"เพื่อนมัสการหลวงพ่ออุ่นเมืองพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่พระเศียรกลวงพระโมฬีปิดเปิดได้ และมีน้ำซึมออกมาเสมอ น้ำที่ได้จากเศียรพระทางวัดจะนำมาผสมกับน้ำธรรมดา เป็นน้ำมนต์งานนี้ชาวคณะหอบหิ้วน้ำมนต์กลับกันเป็นการใหญ่
       
       ค่ำนี้เราค้างคืนกันที่ปาย เป็นเพราะอยากสัมผัสเมืองปายยามค่ำคืน ที่เขาว่ามีสีสันเป็นนักหนา โดยเฉพาะเส้นถนนรังสิยานนท์ ที่มีผับ บาร์ ร้านกาแฟเล็กๆเต็มไปหมด ที่นี่ดูคึกคักต่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
       ราวกับหนังคนละม้วน ทุกคนมานั่งกิน ดื่ม พูดคุยพบปะสังสรรค์กันในบรรยากาศของร้าน ที่เป็นใบตองตึงและสังกะสี ดูแปลกตา กว่านักเที่ยวตามเมืองใหญ่ เป็นอีกหนึ่งสิ่งดึงดูดให้ใครต่อใครอยากมาปาย
       
       คืนนี้เราจึงนอนกันดึกกว่าคืนแรกที่พักของเรา ชื่อว่า"เบลวิลล่ารีสอร์ท" สิ่งเราชื่นชอบกันมากก็คือสามารถมองเห็นวิวสวยของลำน้ำปายได้เด่นชัด ยามเช้าที่เมืองปาย เป็นไปอย่างเอื่อยๆเพราะเมื่อยล้าจากการตระเวนราตรีเมืองปาย

ในภาพมองเมืองปายจากมุมสูงที่วัดพระธาตุแม่เย็น


หัวข้อ: Re: แอ่วปายสัมผัสกลิ่นไอเมืองสามหมอก
เริ่มหัวข้อโดย: auto ที่ สิงหาคม 02, 2007, 11:44:34 AM
หรืออีกอย่างเป็นเพราะต้องมนต์เมืองปายกันให้แล้วจึงไม่อยากกลับ ก่อนออกจากเมืองปายเรามาแวะกันที่ร้านขายโปสการ์ด ส่งถึงตัวเองและเพื่อนๆบอกเล่าสิ่งที่ได้พบเจอ ก่อนโบกมืออำลาจากเมืองปายกันอย่างอาลัยอาวรณ์

ในภาพร้านโปสการ์ดอีกหนึ่งความนิยมในเมืองปาย


หัวข้อ: Re: แอ่วปายสัมผัสกลิ่นไอเมืองสามหมอก
เริ่มหัวข้อโดย: auto ที่ สิงหาคม 02, 2007, 11:46:03 AM
 ข้อมูลและภาพ จาก  ผู้จัดการออนไลน์
สอบถามรายละเอียดการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ที่ โทร.0-5324-8604, 0-5324-8607, 0-5324-1466

ในช่วงฤดูหนาวควรโทรสอบถามที่พักก่อนล่วงหน้า