หัวข้อ: ชม ชิม ช้อป "ตลาดม้ง บ้านขุนกลาง" เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ มีนาคม 14, 2017, 06:48:33 AM ถ้าไม่นับร้านค้าของโครงการหลวง ในสถานีเกษตรดอยอินทนนท์ ดูเหมือนว่าตลาดม้ง บ้านขุนกลาง น่าจะเป็นแหล่งซื้อขายของฝากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ใหญ่แห่งนึง ภายในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์กันครับ โดยเฉพาะสินค้าประเภทพืชผักเมืองหนาว เพราะที่เหลือที่อื่นๆ มักจะเป็นแค่ไร่สตรอว์เบอร์รี่ของเอกชนเท่านั้น
ตลาดม้ง บ้านขุนกลาง ตั้งอยู่บ้านขุนกลาง เลยที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มาซักหน่อย อยู่ทางด้านฝั่งขวามือลักษณะของตลาดจะเป็นเพิงทำจากสังกะสีธรรมดา ด้านหน้ามีร่มใหญ่ๆ กางไว้กันแดดในยามร้อน ความยาวของตลาดเท่าที่คำนวณน่าจะประมาณซัก 500 เมตร ด้วยกัน จากความยาว 500 เมตร ถูกแบ่งซอยออกเป็นย่อยๆ ด้วยกันหลายร้าน แต่ละร้านก็จะนำสินค้าของตัวเองมาขาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ในชุมชน ด้านหน้าตลาดมีลานจอดรถที่ถือว่ากล้างขวางสะดวกกันพอสมควร หัวข้อ: Re: ชม ชิม ช้อป "ตลาดม้ง บ้านขุนกลาง" เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ มีนาคม 14, 2017, 06:49:38 AM ตลาดแห่งนี้ จัดได้ว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้ง สำหรับนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวภายใน อุทยานแห่งชาติดดอยอินทนนท์กันครับ ประเภทก่อนจะกลับลงเข้ามาในเมือง ก็จะแวะซื้อกัน เพราะราคาถือว่าค่อนข้างที่จะถูกกว่ามาซื้อในเมือง (บางอย่างนะ)
บรรยากาศตลาด ถ้าเป็นในหน้าหนาวค่อนข้างที่จะคึกคัก รถราจอดกันเต็มเพียบ ส่วยหน้าร้อน ก็ลดลงตามจำนวนบ้าง แต่ก็ยังถือว่า มีคนมาจับจ่ายใช้สอยกันเรื่อยๆ สินค้าที่นำมาจำหน่ายส่วนใหญ่จะเป็นพืชผักเมืองหนาวทั้งแบบสด และอบแห้ง ไวน์ผลไม้เพื่อสุขภาพ ชาอูหลง ชามะลิ ชาขาว น้ำผึ้งป่า เสื้อผ้า เครื่องประดับในเวอร์ชั่นของชาวม้ง ชาวปกาเกอะยอ ดอกเบญจมาศ ก็มีขายกัน เยอะสุดกว่าใคร คือสตรอว์เบอร์รี่ครับ มีขายทั้งแพคใส่กล่อง (แบบไมได้ยัดใบตองให้ดูเยอะๆ นะ ฮ่าๆๆ) บางก็ใส่ถุง ใส่แก้วเล็กๆ ขายพร้อมจิ้มพริกเกลือกินได้ทันที มีตั้งแต่ราคา 10 บาท ไปจนถึงหลายร้อย ตามราคาและเกรด หัวข้อ: Re: ชม ชิม ช้อป "ตลาดม้ง บ้านขุนกลาง" เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ มีนาคม 14, 2017, 06:51:00 AM สตรอว์เบอร์รี่ส่วนใหญ่ของที่นี่ จะมีทั้งของเกษตรกรที่เข้าร่วมกับโครงการหลวง และไมได้เข้าร่วม แต่ปลูกกันเอง หาที่ส่งและจัดจำหน่ายกันเองครับ
หลักๆ จะเป็นพันธุ์พระราชทาน 80 แทบทั้งนั้น เพราะเป็นพันธุ์ที่เกษตรกรนิยมปลูกกัน ที่สำคัญ เป็นพันธุ์ที่เหมาะกับการทานผลสด ลักษณะดีของสตรอว์เบอร์รี่พันธุ์พระราชทาน 80 คือ เมื่อเริ่มสุกมีกลิ่นหอม รสชาติหวาน เนื้อผลแน่น ผลสุกมีสีแดงสดถึงแดงจัด รูปร่างของผลสวยงาม จึงมีการส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่สูงและพื้นที่ราบเพาะปลูกในเชิงการค้าและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร แต่สตรอว์เบอร์รี่พันธุ์ดังกล่าวยังมีลักษณะด้อยบางประการ เช่น มีปริมาณแอนโทไซยานินน้อย ผิวบาง ช้ำเสียง่าย ไม่ทนต่อการขนส่ง ทำให้เกิดปัญหาการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวคือ ผลสูญเสียทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณ จึงควรมีการพัฒนาพันธุ์ให้มีลักษณะคุณค่าทางโภชนาการสูงขึ้น นั่นคือมีปริมาณแอนโทไซยานินสูง และมีอายุการเก็บรักษายาวนาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและผู้บริโภค อย่างช่วงนี้ ราคาที่สอบถามจากชาวบ้านก็บอกว่าจะถูกลงกว่าปกติในช่วงฤดูหนาว หัวข้อ: Re: ชม ชิม ช้อป "ตลาดม้ง บ้านขุนกลาง" เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ มีนาคม 14, 2017, 06:51:41 AM ยิ่งตอนนี้เกษตรกร หันมาปลูกสตรอว์เบอร์รี่กันมาก เพราะเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวที่บูมมาก ไปที่ไหนคนก็อยากบริโภคสตรอว์เบอร์รี่ ดังนั้น ตามรีสอร์ท ตามโรงแรมต่างๆ และบนดอยก็อยากปลูกขาย พร้อมปลูกโชว์ด้วย ทำให้สตรอว์เบอร์รี่กระจายเร็วมากในช่วงสองสามปีมานี้ ประกอบกับพันธุ์พระราชทาน 80 เป็นลูกผสมที่เกิดขึ้นในบ้านเรา และเจริญเติบโตได้ดีในเมืองไทย จึงทำให้ปลูกได้แพร่หลายมากขึ้น
ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีพันธุ์พระราชทาน 80 ก็มีการพัฒนาสายพันธุ์ต่างๆ มาแล้ว เช่น พันธุ์พระราชทาน 60 เป็นพันธุ์แรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และขึ้นทะเบียนพันธุ์พืช กับกรมวิชาการเกษตร แต่น่าเสียดายพันธุ์พระราชทาน 60 ส่งเสริมได้แค่ 2 ปี ก็มีพันธุ์พระราชทาน 80 ขึ้นมา ซึ่งอร่อยกว่า ดีกว่า เลยเป็นที่นิยมและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ซึ่งพันธุ์พระราชทาน 80 ปีนี้เป็นปีที่ 4 โดยเป็นลูกผสมที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นแล้วนำเมล็ดเข้ามาเพาะที่สถานีวิจัยดอยปุยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อปี 2554 และมาคัดเลือกพันธุ์กัน ใช้เวลา 5-6 ปี จนได้พันธุ์นี้ขึ้นมา จากนั้นค่อยๆ ทดลองส่งเสริม เริ่มแรกทดลองที่อ่างขางก่อน แล้วค่อยให้ชาวบ้านปลูก นักท่องเที่ยวมาทานแล้วชอบใจเพราะรสชาติหวาน หัวข้อ: Re: ชม ชิม ช้อป "ตลาดม้ง บ้านขุนกลาง" เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ มีนาคม 14, 2017, 06:52:45 AM ประกอบกับสตรอว์เบอร์รี่ที่ปลูกด้วยไหลโตไวมาก เป็นพันธุ์ที่ถือว่าปรับตัวเข้ากับเมืองไทยได้ รสชาติดี ส่วนผลผลิตจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสูงและความหนาวเย็น อย่างที่เชียงใหม่อาจจะเก็บยาวได้ถึงเดือนเมษายน แต่ที่เขาค้ออาจจะแค่ต้นเดือนมีนาคมก็หมดแล้ว
รองลงมาจากสตรอว์เบอร์รี่ มีผลไม้อบแห้งแพคเป็นถุงในราคาหลากหลาย ดูๆ แล้วแทบจะเหมือนกันทุกร้านครับ ส่วนพืชผักมีไม่เท่าไรนัก พอๆ กับดอกไม้ ส่วนไวน์ผลไม้ น่าจะถูกใจคอไวน์ เพราะมีให้เลือกเยอะหลายเจ้า เสื้อผ้าชาวเขาอย่างชุดชาวม้ง ชาวปกาเกอะญอ และเครื่องประดับ อันนี้ต้องหาเลือกซื้อเอาดีๆ เป็นไปได้ก็อยากให้อุดหนุนสินค้าที่ทำจากฝีมือของชาวบ้าน ไม่ใช่ไปอุดหนุนสินค้าที่รับมาซื้อจาก กทม แล้วมาจำหน่ายที่เชียงใหม่ เหมือนที่ดอยปุย (ข้อมูลจากมิตรสหาย) ตลาดม้ง บ้านขุนกลาง เปิดบริการกันทุกวัน ตั้งแต่เข้าจรดเย็น เที่ยวแถวดอยอินทนนท์ ก็แวะอุดหนุนสินค้าชาวบ้านกันได้ครับ จะได้เป็นการส่งเสริมรายได้แก่ชุมชน ในเชิงของการท่องเที่ยว |