หัวข้อ: วัดหมื่นเงินกอง กับความเชื่อเรื่องเงินทอง เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ กันยายน 05, 2016, 04:08:27 AM ถ้าชีวิตมันง่ายเหมือนกับปอกกล้วยเข้าปาก อย่างกับคำอวยพรก่อนนอนจากคนเฒ่าคนแก่ที่บอกว่า นอนหลับ ขอให้ได้เงินหมื่น. นอนตื่น ขอให้ได้เงินแสน ป่านนี้คนเราก็คงไม่ต้องทำมาหากินแล้วล่ะครับ เพราะแค่หลับๆ ตื่นๆ ก็รวยกันจนไม่รู้เรื่อง
กระนั้นต่อให้คำอวยพรดังกล่าวมันจะไม่เป็นจริง แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยเสริมสร้างกำลังใจ ให้เราได้สู้ต่อไป เหมือนกับเรามาวัดแล้วไหว้พระ ทำบุญ ขอพรอธิฐาน อย่างที่วัดหมื่นเงินกอง วัดแห่งนี้มีความเชื่อว่า ถ้ามาไหว้พระทำบุญ ก็จะมีเงินทองไหลมากองหาตัวเรา ที่มาที่ไปของความเชื่อนี้นั้นมาจากชื่อของวัด ที่มีเรื่องเล่ากันว่ามหาอำมาตย์หมื่นเงินกองนั้นเคยอุปสมบทในพระพุทธศาสนา หลังจากลาสิกขาออกมาเป็นฆราวาส ก็ได้รับคำนำหน้าว่า "หนาน" ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "หนานเมธัง" มีภรรยาชื่อ "นางแก้ว" โดยมีที่อยู่ก็เป็นที่ตั้งของวัดหมื่นเงินกองในปัจจุบัน ในอดีตนั้นมีเหตุเกิดข้าวยากหมากแพงและเป็นช่วงฤดูฝน ชาวนาไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เต็มที่ เกิดความเดือดร้อนไปทั่วบ้านเมือง หนานเมธังและนางแก้วจึงไปหาซื้อวัว หาซื้อข้าวสาร นอนค้างแรมไปเรื่อยๆตามทาง จนมีความร่ำรวย จนเมื่อเดินทางมาถึงวัดพระนอนข่อนม่วง ทั้งสองสามีภรรยาได้หยุดพักเพราะเป็นเวลาเที่ยงและอากาศร้อนมาก หนานเมธังจึงได้มัดวัวไว้แล้วให้นางแก้วดูแล ส่วนตัวหนานเมธังได้เข้าไปกราบพระพุทธไสยอาสน์ (พระนอน) เมื่อเวลาผ่านไปนาน นางแก้วเห็นสามียังไม่กลับออกมาจึงได้เข้าไปตาม ระหว่างนั้นวัวตัวหนึ่งได้หลุดออกเพราะเชือกขาด วัวตัวนั้นวิ่งไปขวิดตลิ่งจนพัง นางได้เล่าให้สามีฟัง สามีจึงได้คุกเข่าอธิฐานต่อเทวดาว่า "หากสมบัติเหล่านี้เคยเป็นของตนเองในอดีตหรือปัจจุบันชาตินี้ก็ขอให้อยู่อย่างเดิม แต่ถ้าไม่ใช่ก็ขอให้หายไปปรากฏว่าเงินทองทั้งหมดยังอยู่ครบ จึงได้นำมาบรรทุกหลังวัวทั้ง 4 แล้วออกเดินทาง พอมาถึงบ่อน้ำที่ชื่อว่า "บ่อน้ำหมาเลีย" วัวตัวหนึ่งเกิดสะดุดก้อนหินหกล้มตาย ทั้งสองสามีภรรยาจึงได้นำสมบัติบรรทุกวัวทั้ง ๓ ตัว แต่ไม่สามารถจะบรรทุกได้หมด จึงได้นำสมบัติเหล่านั้นฝังดินใกล้ๆ น้ำบ่อ จากนั้นก็เดินทางกลับบ้าน พอถึงเวลาเข้านอนก็นอนไม่หลับจึงปรึกษาภรรยาว่าจะเอาเงินทองที่ได้มาไปสร้างวัดช่างลาน เรื่อยมาจนได้รับยศให้เป็นหมื่นเงินกอง แล้วสร้างวัดหมื่นเงินกองเพื่อเป็นอนุสรณ์ อนึ่ง เป็นที่เข้าใจกันว่า มหาอำมาตย์หมื่นเงินกองหรือทิดเมธัง ผู้สร้างวัดเมธัง และวัดช่างลาน เป็นผู้สร้างวัด "หมื่นเงินกอง" เพื่อเป็นอนุสรณ์ยศถาบรรดาศักดิ์ที่ตนเองได้รับ ต่อมาชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า "วัดมะยมกอง" บ้างแต่ก็มีชื่อที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า "วัดหมื่นเงินกอง" ตราบทุกวันนี้ หัวข้อ: Re: วัดหมื่นเงินกอง กับความเชื่อเรื่องเงินทอง เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ กันยายน 05, 2016, 04:12:01 AM ส่วนประวัติที่เป็นทางการหน่อยนั้น วัดหมื่นเงินกองตั้งอยู่ในเขตกำแพงเมืองชั้นใน ด้านทิศตะวันตกใกล้แจ่งกู่เฮืองและประตูสวนดอก บน ถ.สามล้าน ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้ากือนาหรือท้าวสองแสนนากษัตริย์นครพิงค์เชียงใหม่ กษัตริย์องค์ที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 1882 1916 ซึ่งหมื่นเงินกองเป็นชื่อของอำมาตย์ท่านหนึ่งในรัชกาลของพญากือนา โดยพระองค์ทรงโปรดให้มหาอำมาตย์หมื่นเงินกอง ผ้ายอดขาว และผ้ายอดลาย พร้อมทั้งบริวาร ไปอาราธนาพระสุมนเถระจากเมืองสุโขทัยมาเผยแพร่ศาสนาในล้านนาเมื่อ พ.ศ.1912
สิ่งที่น่าสนใจของวัด วิหารโบราณกึ่งตึกกึ่งไม้ ศิลปกรรมเชียงใหม่ จะสร้างมานานเพียงไหน ใครเป็นช่างไม่ปรากฏประวัติ เข้าใจกันว่ามหาอำมาตย์หมื่นเงินกองและภริยาลูกหลานเป็นผู้สร้างเป็นผู้สร้างในรัชสมัยพระเจ้ากือนา ต่อมาในปี พ.ศ.2502 พระครูศีลสังวรเจ้าอาวาสขณะนั้น พร้อมทั้งศรัทธาร่วมกันบูรณะ โดยมีนายสม ฤทธิ์ปัญจะ นายคำแสน อุปวรรณ์ นายพวง สุภาราษฏร์ นายตั๋น แก้วมูล เป็นนายช่าง ใช้เวลาบูรณะ 3 เดือน ก็แล้วเสร็จ จากนั้นในปี พ.ศ. 2532 พระครูมงคลสิริวงศ์ เจ้าอาวาสพร้อมคณะกรรมการวัดได้พิจารณาเห็นว่า วิหารได้ชำรุดทรุดโทรมลงไปมาก ควรได้รับการบูรณะอย่างใหญ่หลวง ซึ่งในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2532 ได้เริ่มประกอบพิธีบูรณะปฏิสังขรณ์ มีนายดวงดี ฤทธิ์ปัญจะ นายบญศรี ณ.เชียงใหม่ นายสุรสิทธิ์ อินต๊ะวัง นายประสิทธิ์ เพียรผล นายหนิด ขันหาญ พร้อมคณะ เป็นนายช่าง ต่อมามี นางสมศรี วังทองคำ นางตวงรัตน์ โกเมศ ร.อ.อ.สุขุม สิงคาลวณิชย์ นางเหรียญ+นางฉลวย สมบัติสุข นางจันทรา โพธิมา และ คณะศรัทธาทุกคนอุปถัมภ์ ได้ทำพิธียกช่อฟ้า วันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2535 มีพระธรรมปัญญาบดี เจ้าคณะภาค 7 เป็นประธาน ปอยหลวงวันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2535 สิ้นทุนทรัพย์ 3,000,000 บาท (สามล้านบาท) รวมเวลาบูรณะ คือ 3 ปี 1 เดือน 27 วัน วิหารพระนอน พระพุทธไสยาสน์ พระนอนเป็นพระพุทธรูปปั้นปางไสยาสน์ศิลปกรรมแบบล้านนาเชียงใหม่ประทับฐานบัว ภายในซุ้มนับได้ว่าเป็นพระพุทธโบราณล้ำค่าองค์หนึ่ง แต่ไม่พบหลักฐานประวัติความเป็นมา ถัดจากวิหารพระนอนก็จะเป็นอูโบสถซึ่งก็เก่าและไม่มีประวัติบอกเล่า ส่วนพระเจดีย์ภายในวัดเป็นสถาปัตยกรรมของเชียงใหม่ แบบของเจดีย์เป็นแบบผสมระหว่างเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมศรีสัชนาลัยผสมระหว่าง เจดีย์ทรงกลมของเชียงใหม่เป็นทรงประสาทฐานสี่เหลี่ยม ย่อมุมสูง มีเรือนธาตุสี่เหลี่ยมย่อมุม มีซุ้มจรนำประดิษฐานพระพุทธรูปทั้ง 4 ด้านองค์ระฆังกลมซึ่งเจดีย์เดิมนั้นไม่ทราบว่าเป็นแบบไหน แต่ในปัจจุบันได้ครอบองค์เดิมเอาไว้ เมื่อประมาณปี 2534 ได้ถุกฟ้าผ่าครั้งหนึ่งแต่เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนักที่พระธาตุเจดีย์ไม่มีอะไรเสียหายชำรุดเลย ปัจจุบันพระธาตุเจดีย์นี้กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนไว้แล้ว โดยรวมแล้ว ถือได้ว่าวัดแห่งนี้มีความสวยงามเหมาะแก่การเข้ามาเยี่ยมชม และไหว้พระ ทำบุญกันครับ หัวข้อ: Re: วัดหมื่นเงินกอง กับความเชื่อเรื่องเงินทอง เริ่มหัวข้อโดย: DDjung ที่ กันยายน 05, 2016, 09:54:14 AM น่าแวะไปกราบไหว้
|