จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ => แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว ในตัวเมืองเชียงใหม่ => ข้อความที่เริ่มโดย: Dockaturk ที่ กันยายน 05, 2016, 03:53:14 AM



หัวข้อ: อดีตเรือนจำหญิงเชียงใหม่ในวันที่ร้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ กันยายน 05, 2016, 03:53:14 AM
ใครที่อยู่เชียงใหม่คงพอจะทราบกันดีนะครับว่า เรือนจำหญิงที่เดิมนั้นได้ถูกย้ายออกไปกันตั้งแต่นานแล้ว ถ้าจำไม่ผิดก็ราวๆ 3 ปีกว่า ด้วยกัน

ผมมาทราบเรื่องตั้งแต่แรกผ่านบทความของเพื่อน เพราะมีเพื่อนที่บ้านมันอยู่แถวนั้น (ห่างจากเรือนจำไม่เกิน 20 ก้าว) มีโอกาสได้เข้าไปดู และถ่ายภาพข้างในเรือนจำ ช่วงที่เขาย้ายออกใหม่ๆ ช่วงนั้นเขามีพิธีกรรมจากพระจากเจ้า รวมทั้งมีนักเรียน นักศึกษาเข้าไปทัศนศึกษากันเยอะ

ไอ้ตอนที่เราอ่านและรู้เรื่องนั้น ก็ไม่ได้ถามมันต่อว่า ถ้าอยากเข้าไปดูต้องทำอย่างไร ความสงสัยก็ถูกเก็บงำกันมาเรื่อยผ่านวัน ผ่านเดือน ผ่านปี ลึกๆ นี่คือขับรถผ่านก็อยากเข้าไปดู แต่ไม่รู้เขาให้เข้าไปหรือไม่ จนล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็มีโอกาสได้เข้าไปดูข้างในเรือนจำหญิงแบบบังเอิญ

อันเนื่องมาจากมันมีการจัดนิทรรศการ “เรื่องราว ความทรงจำ หลังกำแพง” เป็นนิทรรศการเกี่ยวกับภาพถ่ายในเรือนจำหญิง ที่จัดขึ้นตรงหอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ ดูเสร็จขากลับขับรถผ่านเรือนจำ เห็นเขาเปิดประตูมีคนเดินเข้าออก ด้วยความสงสัยเลยเดินเข้าไปดูข้างใน ถึงได้ทราบว่ามีคนงานกำลังรื้อถอนอาคารบางส่วนออกในนั้น ส่วนผมหลังจากหลุดเข้าไปในนั้นก็เผยรอยยิ้มตรงมุมปากว่า งานนี้ได้มีทัวร์คุกหญิงสมใจแน่นอน

อนึ่ง ก่อนจะไปทัวร์นั้น ขอเล่าก่อนว่าที่เขาต้องรื้อถอนและย้ายเรือนจำหญิงออกจากตรงนี้ เพราะเขาจะทำโครงการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้วกันครับ เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่เดิมของเรือนจำหญิง ให้เป็นพื้นที่ใช้สอยของสาธารณะตรงกลางเมืองเชียงใหม่ ประมาณว่าการมีเรือนจำอยู่ตรงนี้มันเป็นที่ไม่งามตา เนื่องจากอยู่ในย่านกลางเมืองที่ต้องพัฒนา และอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมหลายส่วน อีกทั้งเรือนจำมีขนาดเล็กและไม่สามารถขยายพื้นที่เพียงพอต่อการรองรับนักโทษได้  ว่าแล้วก็เลยย้ายออกไปให้อยู่นอกเมืองคงเป็นการดี ส่วนโครงการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว  ก็จะเริ่มดำเนินการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม

สำหรับเวียงแก้วนั้น สมัยก่อนเคยเป็นเขตพระราชฐานของเวียงเชียงใหม่ สันนิษฐานว่า สร้างมาพร้อมกับการสร้างเวียงเชียงใหม่ของพญามังราย ซึ่งภายในเวียงแก้วเดิม มีกำแพงแบ่งอาณาเขตออกเป็น 3 ส่วน คือส่วนเหนือ ส่วนใต้ และส่วนตะวันออก ภายในเวียงแก้วแต่ละส่วนประกอบไปด้วยหมู่อาคารราชมณเฑียร

ในรัชสมัยเจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ ครองนครเชียงใหม่ ขณะนั้นเชียงใหม่มีฐานะเป็นมณฑลพายัพในกำกับของรัฐบาลสยาม พื้นที่เวียงแก้วเป็นที่รกร้างไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ เจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ ได้ยกพื้นที่เวียงแก้วส่วนใต้ ทำเป็นเรือนจำ และอีกส่วนทำเป็นสวนสัตว์ และแบ่งให้เจ้านายบุตรหลาน


หัวข้อ: Re: อดีตเรือนจำหญิงเชียงใหม่ในวันที่ร้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ กันยายน 05, 2016, 03:55:34 AM
ข้อมูลการสร้างเรือนจำนั้น ไม่ทราบชัดเจนว่าถูกสร้างขึ้นในปีใด แต่จากการสันนิษฐานจึงประมาณได้ว่าเรือนอาจถูกสร้างขึ้นในระหว่างปี พ.ศ. 2459 – 2460 ต่อมาภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองจึงเปลี่ยนสถานะมาเป็น "เรือนจำกลางเชียงใหม่" จนในปี พ.ศ. 2544 ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เข้ามาแทนที่จนถึงในปี พ.ศ. 2555 จึงมีการย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว จากเลขที่ 100 ถนนราชวิถี ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ (คุ้มหลวงเวียงแก้ว) มาอยู่แทนที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ เลขที่ 142 ถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2555

มาในส่วนของการจะพาทัวร์ชม ในวันที่เรือนจำหญิงเชียงใหม่ไม่มีนักโทษ อาคารสำคัญมีด้วยกัน 6 หลัง คือ อาคารอำนวยการด้านหน้าสุด อาคารพยาบาล เรือนแว่นแก้ว (เรือนนอนผู้ต้องขังที่เข้าร่วมกิจกรรมชุมชนบำบัด) เรือนบัวบาน(เรือนนอนผู้ต้องขังใกล้พ้นโทษ) เรือนเครือฟ้า(แดนแรกรับ) และเรือนเพ็ญ(ที่คุมขังผู้ต้องขังคดีเด็ดขาด) ส่วนใหญ่เป็นอาคารอายุมากกว่า 100 ปีที่ก่อด้วยอิฐโดยใช้ระบบผนังรับน้ำหนัก ไม่มีเหล็กแม้แต่เส้นเดียว อาคารลักษณะนี้มีแต่ในบริเวณพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางเมืองเชียงใหม่เท่านั้น และตอนนี้บางส่วนของด้านหลัง ก็เริ่มทำการรื้อถอนกันออกไปบ้างแล้ว

จากเรือนอาคารที่เอาไว้ขังนักโทษยังมีกันอยู่ 3-4 อาคาร ผมเลือกเข้าไปชมข้างในของเรือนเครือฟ้า ที่เป็นแดนแรกรับ โดยตัวอาคารจะอยู่ฝังทางด้านซ้ายมือ หากเราเดินเข้าไป

อาคารนี้มีด้วยกันสองชั้น แต่ละห้องจะจุนักโทษได้ราวๆ เกือบ 20 คน บางห้องก็เกือบ 30 คน และห้องก็ถือว่าแคบมาก แถมมีส้วมอยู่ในนั้นโถเดียวแบบโล่งโจ่ง ห้องไหนดีหน่อยก็มีสองโถ ครั้งแรกที่มองเข้าไปดูยังนึกอยู่ว่า อยู่กันได้ยังไง (อยู่ไม่ได้ก็ต้องอยู่ พวกเขาคงตอบแบบนั้น) ไหนจะมีห้องมืดตรงใต้บันได อันนี้ยิ่งแคบหนักเข้าไปใหญ่ แสงสว่างก็ไม่มีส่องถึง จะขี้จะเยี่ยวก็ปล่อยกันในนั้น ฉะนั้นสภาพก็ไม่อยากจะจินตนาการล่ะครับว่ามันจะลำบากและหดหู่ขนาดไหน ส่วนตามผนังตรงทางเดินด้านนอกห้องขังของอาคารนี้ จะมีพวกป้ายคำสอน คติเตือนใจเอาไว้ให้อ่าน อารมณ์ประมาณป้ายนิเทศตามโรงเรียนประถมที่แปะเอาไว้

ออกจากเรือนเครือฟ้า ผมมาเดินดูอาคารโซนหลังที่เข้ากำลังรื้อ ก็เป็นเห็นพวกล็อคเกอร์เก็บของต่างๆของนักโทษ ที่สภาพก็ผุพังไปตามกาลเวลา ตั้งแต่ยังมีนักโทษ บางล็อคเกอร์ยังมีพวกหนังสือ สมุดยัดไว้ในนั้น บางล็อคเกอร์ผนังด้านในก็ติดรูปภาพดารา นักร้อง ที่แกะเอามาจากนิตยสารที่ญาติฝากมาให้อ่าน เห็นแล้วก็รู้สึกสงสารจับใจ ว่าอยู่ในนี้คงไม่ได้รับรู้ข่าวสารอะไร และการได้อ่านหนังสือคงเป็นอะไรที่ช่วยคลายเหงาและเครียดได้เยอะ

นอกจากเรือนขังที่ผมแวะไปดู อาคารพวกโรงอาหาร โรงฝึกงานวิชาชีพอื่นๆ ก็ยังอยู่กัน ไอ้ผมก็เลียบๆ เคียงๆ ไปดู แต่ไม่ได้ละเอียดอะไรเยอะ แถมฝนก็เริ่มไล่หลังมา แต่เอาเป็นว่าเท่านี้ก็ถือว่าพอใจแล้วที่มีโอกาสได้เข้ามาดูโลกอีกใบที่เราไม่รู้จัก และคงไม่มีใครอยากเข้ามาใช้ชีวิต

โลกที่ผมเข้ามาสัมผัสเพียงไม่กี่นาที แต่มีครบทั้งความวังเวง หดหู่ สิ้นหวัง และน่าสงสาร