จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ => ร้านหมูกะทะ ปิ้งย่าง จิ้มจุ่ม ชาบู สุกี้ เชียงใหม่ => ข้อความที่เริ่มโดย: Dockaturk ที่ สิงหาคม 01, 2016, 03:48:58 AM



หัวข้อ: "หม่าล่า 4 แยก" เผ็ดชาตินี้ ชาถึงชาติหน้า
เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ สิงหาคม 01, 2016, 03:48:58 AM
ชาติไทยถือว่าเป็นชาติที่มีศิลปะในการดื่มเหล้าไม่เหมือนใคร ตรงที่สามารถดื่มเหล้าอะไร และมีกับแกล้มแบบไหนก็ได้ ขอแค่ให้มี (แต่บางครั้ง ก็จะมีกับแกล้มบางอย่างที่กินคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางประเภท) ต่างกับต่างชาติที่ถ้าต้องมีกับแกล้ม มันเป็นของคู่กับเฉพาะอย่าง เช่นเมนูนี้ ต้องกินกับเบียร์ยี่ห้อนี้เท่านั้นมันถึงจะอร่อยและถูกปาก ไม่เสียรสชาติกันทั้งเครื่องดื่มและอาหาร

สำหรับคนไทยอย่างที่บอก ขอแค่มีกับแกล้มเข้าไว้จะได้ไม่เหงาปาก กับแหล้มส่วนใหญ่ที่คุ้นๆ กันสำหรับคอแอลกอฮอล์คงหนีไม่พ้นพวกปิ้ง ย่าง ยำ ออกแนวเผ็ดๆ เปรี้ยวๆ ตามสไตล์ของคนไทยที่ชอบอาหารรสจัด และเมื่อตีวงแคบเข้ามา ก็จะเห็นได้ว่า พวกปิ้ง ย่าง เป็นอะไรที่ถูกหยิบมาเป็นกับแกล้มอร่อยปากที่สุด

กับแกล้มมา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามมา และที่จะพาตามมาก็คือ “ร้านหม่าล่า 4 แยก” กับเมนูปิ้งย่างเผ็ดสะใจ เอาไว้แกล้มเหล้าเบียร์เย็นๆ

จากสี่แยกหายยา เข้ามาที่ถนนศรีปิงเมืองขับยาวตรงทางวัดศรีปิงเมือง จนเลยวัดมาหน่อย เจอสามแยกเลี้ยวซ้ายไป จนถึง 7-11 “ร้านหม่าล่า 4 แยก” จะอยู่ตรงข้ามกับ 7-11 เยื้องนิดๆ อีกเส้นทาง หากใครมาจากสี่แยกแอร์พอร์ต ขับมาตามถนนมหิดล มุ่งหน้าไปทางสี่แยกหนองหอย ประมาณ 1 กิโลเมตรให้เลี้ยวซ้ายถนนศรีปิงเมือง (ปากซอยมีร้านลาบต้นยาง โรงแรมบีทู) ขับยาวไปตามถนนศรีปิงเมืองจนถึงสามแยกที่เป็นถนนศรีปิงเมือง 4 เลี้ยวขวา ยาวไป จนถึง 7-11 ก็เป็นอันว่าถึง

ที่จอดรถของทางร้านนั้น มอเตอร์ไซค์สามารถขับเข้าไปจอดด้านในได้ ส่วนรถยนต์ ก็เลียบๆ เคียงๆ หาจอดแถมนั้นตามริมถนน

“หม่าล่า 4 แยก” ถือว่ากว้างขวางครับ จากแต่เดิมที่มีกัน 7-8 โต๊ะ ตอนนี้มีประมาณราวๆ 20 กว่าโต๊ะ หลังจากที่ทางร้านได้เพิ่มเติมพื้นที่ร้านไป และในอนาคตก็จะมีในส่วนของชั้นสองราวๆ 10 กว่าโต๊ะด้วยกันให้ได้เลือกนั่ง ซึ่งคาดว่าหน้าหนาวนี้คงเสร็จทันเอาไว้ไปนั่งกินของปิ้งย่างแกล้มเบียร์ กับอากาศหนาวๆ

ที่ไปที่มาของทางร้านนั้น คุณโตโต้และคุณตงตง สองพี่น้องชาวไต้หวัน ที่มาอาศัยอยู่เมืองไทยกว่า 10 ปี เป็นคนชอบกินหม่าล่าเป็นชีวิตจิตใจ ชนิดที่เรียกได้ว่า พ่นสำเนียงจีนออกมาได้กลิ่นหม่าล่ากันเลยทีเดียว และจากความหลงใหลในรสชาติหม่าล่า สองพี่น้องก็ตระเวนเสาะหาไปชิมทั่วเชียงใหม่ เชียงราย รวมทั้งเมืองจีน จนแฟนของคุณโตโต้ประชดว่า “ถ้ารักมาก ก็ไปแต่งงานกับมันซะ” ฮ่าๆๆ ไม่ใช่แล้ว แต่ที่ประชดใจความก็คือ “ถ้าชอบกินขนาดนี้ทำไมไม่เปิดร้านเองซะเลย” ว่าแล้วก็เปิดกันมันจริงๆ ฮ่าๆ โดยนำเข้าเครื่องเทศหลักที่ทำหม่าล่ามาจากเมืองจีนกันเลย


หัวข้อ: Re: "หม่าล่า 4 แยก" เผ็ดชาตินี้ ชาถึงชาติหน้า
เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ สิงหาคม 01, 2016, 03:50:54 AM
สำหรับ ”หม่าล่า” หลายคนอาจจะสงสัยว่า มันคืออะไร ขอบอกให้ทราบว่าและแซบว่า “หม่าล่า” มาจากภาษาจีน หมายถึง รสชาติแบบเผ็ดๆ ชาๆ ที่ปลายลิ้น โดยรสชาติแบบนี้มาจากเครื่องเทศอย่างหนึ่งที่มีต้นกำเนิดจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน เรียกว่า ฮวาเจียว  รูปร่างหน้าตาคล้ายเม็ดพริกไทยดำ ในภาษาอังกฤษจึงเรียกว่า Sichuan pepper (พริกไทยเสฉวน)

ในประเทศจีนรสหมาล่าสามารถใส่ได้กับอาหารแทบทุกประเภท ไม่ว่าจะต้ม ผัด ทอด หรือปิ้งย่าง ถือเป็นการเพิ่มความเอร็ดอร่อยให้กับอาหาร สร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งไม่สามารถพบเห็นได้นอกจากในประเทศจีน อาหารที่ได้รับความนิยมจากการใส่รสหมาล่า ได้แก่ หม้อไฟหมาล่า, เต้าหู้ผัดพริกเสฉวน, บาร์บีคิวสไตล์จีน (มีการโรยผงหมาล่า), มันฝรั่งทอดคลุกเคล้าด้วยผงหมาล่า เป็นต้น

มาที่เมนูของทางร้าน “หม่าล่า 4 แยก” อาหารสามารถเดินไปสั่งตรงเคาน์เตอร์ได้เลย ซึ่งเมนูที่นี่ทุกอย่างเริ่มต้นที่ไม้ละ 10 บาท เมนูหลักๆ ที่ให้เลือกก็จะมี เนื้อหมู เนื้อวัว หมูสามชั้น เนื้อวัวติดมัน ไก่ ตับไก่ หัวใจไก่ ไส้หมู เห็ดออรินจิ เห็ดนางฟ้า กระเจี๊ยบ หัวหอมใหญ่ ต้นหอมยักษ์ เห็ดเข็มทองพันเบคอน และหน่อไม้ฝรั่งพันเบคอน เป็นต้น เลือกเสร็จก็หยิบใส่จาน ยื่นให้พนักงานย่างราวๆ 10-15 นาที เราก็ไปนั่งจิบเบียร์เย็นๆ รอเขามาเสิร์ฟถึงที่ ก็เป็นอันว่าใช้ได้

อีกอย่างยื่นให้พนักงานบอกเขาด้วยว่าชอบความเผ็ดกันในระดับไหน ซึ่งมันก็จะมีทั้งแบบเผ็ดน้อย เผ็ดธรรมดา และเผ็ดมาก และสำหรับผู้เริ่มต้นชิม ขอแนะนำแบบเผ็ดน้อย หรือเผ็ดธรรมดาไปก่อน เพราะถ้าข้ามขั้นไปแบบเผ็ดมากเลย ประเดี๋ยวจะเผ็ดจนลิ้นชา กินกันไม่ไหว

นอกจากเมนูประเภทปิ้งย่างแบบนี้แล้ว ก็ยังมีเมนูประเภทของยำครับ พวกยำไข่เค็ม ยำไข่เยี่ยวม้า ยำแหนม ยำหมูยอ เป็นต้น เมนูประเภทเปรี้ยว เผ็ด ก็มีกันครับทั้งต้มยำ กุ้งแช่น้ำปลา หมูมะนาว หมูคำหวาน ของทอดกินแกล้มก็มีเช่นกัน เรียกได้ว่ามาร้านนี้ท้องไส้ต้องสั่นโครมครามไปด้วยความจัดจ้านในระดับ 10 กะโหลก

“หมาล่า 4 แยก” เปิดให้บริการกันตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ เบอร์โทรศัพท์ 087-5656656 ใครชอบกินหม่าล่า หรือ ว่าอยากชิม ก็แวะกันมาได้ครับ รับรองว่าจะติดใจไปกับสโลแกน ““กินชาตินี้ ชาถึงชาติหน้า” ฮ่าๆๆ

ปล.หม่าล่า ว่ากันว่ามีสรรพคุณช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น แก้วิงเวียนศีรษะ สามารถดับกลิ่นคาวในเนื้อสัตว์ได้ บ้างก็นำมาต้มดื่มเป็นยาแก้ไข้ แถมยังช่วยขับระดูในสตรี



หัวข้อ: Re: "หม่าล่า 4 แยก" เผ็ดชาตินี้ ชาถึงชาติหน้า
เริ่มหัวข้อโดย: diamond ที่ สิงหาคม 02, 2016, 09:39:24 AM
ชื่อแปลกดี น่าลองชิม