ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
พฤศจิกายน 27, 2024, 07:36:40 AM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ประกาศ ปัมพ์โพสต์ตอบแต่ emoticon ต่อเนื่อง เพื่อจะให้กระทู้ตัวเองมาอยู่อันดับต้นๆ ประจำ รับสิทธิ์โดนแบน 90 วันครับ


จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: วัดเกตุการาม วัดพระธาตุประจำปีเกิด ปีจอ 0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: วัดเกตุการาม วัดพระธาตุประจำปีเกิด ปีจอ  (อ่าน 6597 ครั้ง)
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2016, 05:30:39 AM »


ตามความเชื่อของคติล้านนา เมื่อคนเราตายไปดวงวิญญาณจะสิงสถิต ที่พระธาตุประจำปีเกิดของแต่ละคนก่อนที่จะไปเกิดเป็นมนุษย์ ซึ่งเมื่อหมายความตามนั้น แต่ละคนก็ควรที่จะไปนมัสการไหว้พระธาตุประจำปีเกิด เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต

จากพระธาตุประจำปีเกิดทั้งหมด 12 ราศี สำหรับคนที่เกิดปีจอ อันเป็นปีที่สิบเอ็ดของปีนักษัตร (ธาตุดิน) มีสัญลักษณ์เป็นรูป "สุนัข" พระธาตุประจำปีนี้ คือ พระธาตุจุฬามณี วัดเกตุการาม อ.เมืองฯ จ. เชียงใหม่ ซึ่งเชื่อกันว่าประดิษฐานอยู่บนสวรรค์

ทั้งนี้ ก่อนที่จะไปลงลึกถึงเรื่องของพระธาตุจุฬามณี ขออนุญาตพามาทัวร์หลักๆ ในส่วนของวัดก่อน ซึ่งก็คือ วัดเกตุการาม

วัดเกตุการาม เป็นวัดเก่าแก่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง ตามประวัติวัดบอกว่าสร้างในปี พ.ศ. 1971 สมัยพระเจ้าสามฝั่งแกน กษัตริย์ราชวงศ์มังราย(ครองราชย์ พ.ศ. 1954-1985) พระราชบิดาของพระเจ้าติโลกราช ผู้จัดการก่อสร้างวัดเกตการาม คือ พระยาเมือง พระยาคำ และพระยาลือ เป็นผู้ควบคุมข้าทาสบริวาร 2000 คน เป็นผู้ก่อสร้าง วัดเกตการามได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 1981 สมัยพม่าปกครองเมืองเชียงใหม่ พ.ศ. 2121 วัดเกตุการามยังมีความสำคัญต่อพม่ามาก โดยในสมัยพระเจ้าบุเรงนองทรงบูรณะเจดีย์อีกครั้ง และถวายสิ่งของ ผู้คนเพื่อเป็นข้าพระธาตุวัดเกตอีก 200 คน ในการก่อสร้างวัดเกตการามจนถึงปัจจุบันมีอายุรวม 576 ปี

กลับมาที่ศาสนถานที่สำคัญ ซึ่งก็คือ พระธาตุจุฬามณี  ที่เชื่อกันว่าจะประดิษฐานอยู่บนสวรรค์ ถูกกำหนดให้เป็นองค์แทนเจดีย์จุฬามณีอีกองค์หนึ่ง และเมื่อเจดีย์จุฬามณีเป็นเจดีย์ที่อยู่ไกลถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จึงมีการสมมติให้เจดีย์องค์หนึ่งในประเทศพม่าเป็นที่กราบไหว้แทน โดยมีตำนานเล่าว่าพระอินทร์เป็นผู้นำลามาแขวนไว้ริมหน้าผาให้ผู้คนบูชา เรียกเจดีย์องค์นี้ว่า "พระธาตุอินทร์แขวน" แต่ด้วยระยะทางที่ไม่ค่อยสะดวกนัก คนไทยจึงไปกราบไหว้พระธาตุประจำปีเกิดที่วัดเกตุการามแทนอีกที่หนึ่ง ในฐานะตัวแทนของพระธาตุสำหรับคนที่เกิดปีจอ ที่มีน้องหมาเป็นสัญลักษร์นั่นแหละ

ตามประวัติพระธาตุจุฬามณี กล่าวไว้ว่าประดิษฐานพระทันตธาตุที่พระอินทร์นำมาจากพระบรมธาตุที่โทณพราหมณ์ได้แอบซ่อนไว้ เมื่อครั้งมีการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าให้แก่เจ้าเมืองต่างๆ ด้วยเหตุที่พระธาตุเจดีย์องค์นี้ มนุษย์ไม่สามารถเดินทางไปถึงได้ ดังนั้นการนมัสการด้วยการบูชารูปแล้ว ยังสามารถบูชาพระเจดีย์ ที่วัดเกตการาม เชียงใหม่ ซึ่งมีชื่อพ้องกับพระเกศแก้ว จุฬามณี


* DSCF07DHDHDHDH67_15.JPG (525.43 KB, 800x533 - ดู 2164 ครั้ง.)

* DSCF07DHDHDHDH67_14.JPG (284.24 KB, 800x533 - ดู 2172 ครั้ง.)

* DSCF07DHDHDHDH67_10.JPG (405.21 KB, 800x533 - ดู 2272 ครั้ง.)

* DSCF07DHDHDHDH67_8.JPG (483.66 KB, 800x533 - ดู 2218 ครั้ง.)

* DSCF07DHDHDHDH67_9.JPG (430.74 KB, 800x533 - ดู 2165 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2016, 05:37:22 AM »


สำหรับ พระธาตุจุฬามณี เป็นปูชนียสถานที่ใหญ่โต คือมีฐานกว้าง 82 ยาว 63 วา มีความงดงาม มีเจดีย์ บริวาร 4 มุม สำหรับเจดีย์บริวารนี้เดิมมีฉัตรแบบเดียวกับของวัดพระธาตุดอยสุเทพ แต่ปัจจุบันสูญหายไป ไม่ทราบว่าใครถอดออกเมื่อใดและด้วยเหตุใด ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า สมัยก่อนเคยเห็นพระธาตุออกมาเที่ยวโดยจะลอยไปทางทิศใต้เพื่อไปเยี่ยมเยือนพระธาตุจอมทอง มีลักษณะเป็นดวงไฟสีเขียงอุ้มฮุ่ม ( สีเขียวเข้มและเย็นแบบป่า ) พระธาตุนี้เสมือนมนุษย์โลก ดังนั้นการสร้างพระธาตุเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์และเดิมองค์พระธาตุเป็นสีตะกั่วตัด เพิ่งมีการนำสีทองมาทาในยุคของท่านพระครูญาณลังการ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

จากพระธาตุจุฬามณี มาดูที่สิ่งน่าสนใจอื่นๆ บ้าง ภายในวัดมี ศิลาจารึก ตั้งอยู่บนมุขด้านใต้ของพระวิหารจารึกเป็นอักษรฝักขามบนหินทรายแดง กว้าง 58 เซนติเมตร สูง 176 เซนติเมตร หนา 21 เซนติเมตร ด้านหน้าลบเลือนไปหมด เหลือแต่ดวงศิลาจารึก ด้านหลังพออ่านได้ สรุปว่า ศักราช 940 (ประมาณมกราคม – กุมภาพันธ์ ) มีการบูรณะพระเกศธาตุเจดีย์ที่พังลง ศักราช 943 (ประมาณธันวาคม – มกราคม พ.ศ. 2124 ) มีงานฉลองพระเจดีย์แจ้งความกว้างความยาวของพระอาราม ถวายคนประมาณ 100 ครอบครัว เป็นข้าวัด พร้อมทั้งแจ้งชื่อหัวหน้าและสมาชิกและครอบครัวด้วย

พระวิหาร    สร้างสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 9 ห้อง มีเสาคู่ในรองรับหลังคาหน้าจั่วและเสาคู่นอกรับแนวหลังคาปีกนกย่อเก็จ 3 ตอน ในแนวตะวันตก – ตะวันออก หัวเสาประดับด้วยแก้วอังวะ ตัวเสามีลายทอง มีประตูทางเข้า 3 ทาง หลังคาทรงจั่วเรียงซ้อนกัน 5 ชั้น ( คำเมืองเรียกว่าซด ) 2 ตับ งดงามยากจะหาวัดใดมาเทียบได้

หอธรรม หอธรรมวัดเกตเป็นอาคาร 2 ชั้น มีขนาดปานกลาง ชั้นบนเป็นไม้ มีระเบียงล้อมรอบ ฝาเป็นลายคำงดงามมาก ด้านในทาด้วยหาง (ชาด) สีแดง ชั้นล่างก่ออิฐฉาบปูนแบบโบราณ มีความเย็นโปร่งพอเหมาะกับการรักษาสภาพของธรรมใบลาน หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินขอ ปลายมนมุงซ้อนกันแบบเกล็ดนาค บนหอธรรมมีแผ่นไม้ปิดทอง จารึกด้วยอักษรล้านนาหรือตั๋วเมือง

อาคารศาลาบาตร    มีอายุประมาณร้อยปี ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ลวดลายแบบจีนเป็นรูปไก้ฟ้า ดอกบัวดอกโบตั๋น ต้นสน และทิวทัศน์แบบจีน เดิมเคยมีศาลาหลังใหญ่ที่สร้างคู่กันกับศาลาบาตรนี้อยู่ทางด้านตะวันออกของวัด ภายในมีลวดลายมังกรใหญ่โต สวยงามอลังการมาก แต่ถูกรื้อทิ้งเพื่อสร้างอาคารโงเรียนเทศบาลวัดเกตการาม ศาลานี้ชาวบ้านมักเรียกว่า “ ศาลาเจ๊กอุย” เพราะสร้างโดยนายเหลี่ยว เนียวอุย บรรพบุรุษของตระกูล เหลี่ยวย่งง้วน


* rrrrrrrrrr.JPG (211.43 KB, 800x533 - ดู 2234 ครั้ง.)

* rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr.JPG (500.35 KB, 800x533 - ดู 2126 ครั้ง.)

* fujiiiiiiiiiiiiiiiii_1.JPG (608.07 KB, 800x1200 - ดู 472 ครั้ง.)

* fujiiiiiiiiiiiiiiiii_3.JPG (632.73 KB, 800x1200 - ดู 426 ครั้ง.)

* fujiiiiiiiiiiiiiiiii_2.JPG (564.06 KB, 800x1200 - ดู 391 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2016, 05:38:08 AM »


อุโบสถ   เป็นทรงเดียวกับพระวิหาร แต่มีขนาดเล็กกว่า ด้านหน้ามีปูนปั้นแบบลายจีนเป็นรูปตัวกิเลนและลูกๆ มีปลาพ่นน้ำ ปูนปั้นที่หน้าต่างและหัวบันไดบูรณะและเปลี่ยนแบบใหม่ เมื่อประมาณ 20 ปีมานี้มีการเปลี่ยนแปลงบานประตูใหม่ บานประตูเก่าถูกนำไปไว้ที่อาคารตุ๊เจ้าหลวงเก่า

พิพิธภัณฑ์ วัดเกตการาม พิพิธภัณฑ์วัดเกตการามก่อตั้งขึ้นโดยความร่วมมือของศรัทธาวัดเกต เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2542 มีคณะกรรมการวัดเกตการามเป็นผู้ดูแล อาคารของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เคยเป็นกุฏิพระครูชัยศีลวิมล (พ.ศ. 2429 – 2500) เรียกกันว่า"โฮงตุ๊เจ้าหลวง"

อาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดเกตุ    เป็นศิลปะล้านนาประยุกต์มีบันได 2 ข้างหันหน้าเข้าหากัน บนจั่วหลังคามีไม้กลึง หน้าบันไดเป็นไม้ฉลุลวดลายสวยงาม ตัวอาคารเป็นไม้ เสาเป็นปูน สร้างถวายโดยจีนอินทร์และนางจิบภรรยา เมื่อปี พ.ศ. 2462 อาคารนี้มีความสวยงามกะทัดรัด จนสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชกลมมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศได้นำแบบไปสร้างจำลองไว้

อัฐเจดีย์   อัฐเจดีย์ที่เรียนรายรอบพระธาตุอย่างเป็นระเบียบ สวยงามด้วยศิลปกรรมที่ประณีต ดูแล้วลงตัวรับกับองค์พระธาตุ อัฐบรรพชนเหล่านี้คือผู้ที่ได้อุปัฏฐากวัดอย่างยิ่งจึงได้รับเกียรติให้สร้างกู่รอบพระธาตุ ปัจจุบันลูกหลานของท่านก็ยังคงมีความผูกพันกับวัดเกตอยู่ มิได้ทอดทิ้งแต่อย่างใด

พระพุทธรูป (พระประธานในวิหาร)  เป็นพระพุทธรูปสมัยล้านนา ซึ่งรับอิทธิพลมาจากสุโขทัย เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง หลังพระประธานประดับด้วยพระแผง

นอกจากความน่าสนใจหลายสิ่งหลายอย่าง ภายในวัดแห่งนี้แล้ว ในย่านชุมชนแห่งนี้ที่ว่ายังมีความน่าสนใจครับ เพราะในสมัยก่อนนั้น ชุมชนวัดเกต เป็นย่านการค้าที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก เป็นชุมชนใหญ่ เนื่องจากย่านนี้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิงที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่มาหล่อเลี้ยงประชากรที่อาศัยอยู่ทั้งสองฟากฝั่ง ทุกบ้านที่ทำการค้าจะมีท่าเรือเป็นของตนเอง ใช้เรือหางแมงป่อง (หรือเรือสะดอ เรือสีดอ เรือแม่ปะ) เป็นพาหนะขึ้นล่องตามลำน้ำปิง ก่อนต่อมาความเจริญรุ่งเรืองของย่านวัดเกตเริ่มซบเซาลง นับตั้งแต่กบฏพระยาปราบสงคราม (พญาผาบ) พ.ศ. 2432 เนื่องจากคนไทยภาคกลางขึ้นมาข่มเหง และถูกคนจีนที่เป็นนายอากรเก็บภาษีต้นหมากต้นพลู ก่อให้เกิดความเดือดร้อนไปทั่ว พญาผาบจึงได้รวบรวมผู้คนก่อการกบฏขึ้นและคิดฆ่าคนจีนที่วัดเกตให้หมด คนจีนและลูกหลานคนจีนเกิดความเกรงกลัว พากันลี้ภัยข้ามไปอยู่ฝั่งตะวันตก คงเหลือแต่เพียงครอบครัวนายหน้อย แซ่แต่เท่านั้นที่ยังอยู่ เพราะเคยช่วยเหลือรับซื้อครั่งจากพญาผาบและชาวบ้านอำเภอสันทราย จึงมีความรักใคร่ชอบพอกัน

สำหรับหนหน้า ถ้ามีโอกาสจะขออนุญาตมาเล่ากันเต็มๆ กับเรื่องราวชุมชนเหล่านี้ ว่ามีความน่าสนใจยังไง



* DSCF07DHDHDHDH67_1.JPG (460.93 KB, 800x533 - ดู 2156 ครั้ง.)

* DSCF07DHDHDHDH67_2.JPG (423.48 KB, 800x533 - ดู 2053 ครั้ง.)

* DSCF07DHDHDHDH67_3.JPG (408.08 KB, 800x533 - ดู 1996 ครั้ง.)

* DSCF07DHDHDHDH67_4.JPG (381.32 KB, 800x533 - ดู 2007 ครั้ง.)

* DSCF07DHDHDHDH67_5.JPG (405.05 KB, 800x533 - ดู 2028 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
auto
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 5733


**Chiang Mai, I love you**


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2019, 05:33:56 PM »


 :onio:
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ขึ้นบน พิมพ์ 
จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: วัดเกตุการาม วัดพระธาตุประจำปีเกิด ปีจอ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  




Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.5 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.096 วินาที กับ 21 คำสั่ง