ไปทำความรู้จักกับบางส่วนของ "ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่"

[konhuleg]

เมื่อพูดถึงศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ เท่าที่เข้าใจและรู้จักกัน มักจะคุ้นเคยกันในเรื่องของการกิน “ขันโตก” แต่น้อยคนนักมักจะรู้ด้วยว่านอกจาก “ขันโตก” ที่ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ ยังมีเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจด้วยกันอีกเพียบครับ

แต่ก่อนจะไปสำรวจก็มาดูกันคร่าวๆ ข้อมูลทั่วไปคร่าวๆ กันก่อน ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ ก่อตั้งโดยคุณบวรและคุณอุณณ์ ชุติมา ซึ่งได้รับแนวความคิดมาจากจาก POLYNESIAN CULTURAL CENTER (ศูนย์วัฒนธรรมชาวเกาะ) จากเมืองฮอนโนลูลู มลรัฐฮาวาย แห่งสหรัฐอเมริกา มีการเริ่มวางโครงการจัดตั้งและก่อสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2513 เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2514 ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ ก็ได้เปิดห้องบริการอาหารขันโตกและการแสดงแบบล้านนาเป็นครั้งแรก นับเป็นจุดเริ่มต้นของการบริการอาหารขันโตกแห่งแรกของเมืองเชียงใหม่

ส่วนวัตถุประสงค์ในการตั้งศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่นั้น เพื่อส่งเสริมรักษาขนบธรรมเนียมศิลปวัฒนธรรมของล้านนาไทย และยังได้รวบรวมชาวไทยภูเขาเผ่าต่างๆ มาอยู่เพื่อแสดงการละเล่นของแต่ละเผ่าให้นักท่องเที่ยวได้ชม

สิ่งที่น่าสนใจอย่างแรกตรงปากทางเข้านั้น เป็นหอธรรม หรือ หอไตรจำลองครับ เป็นอาคารทางศาสนาประเภทหนึ่งของพุทธศาสนา ตั้งอยู่ในวัด บางวัดตั้งอยู่ในเขตพุทธาวาส และบางวัดตั้งอยู่ในเขตสังฆาวาส เป็นอาคารขนาดเล็กสำหรับเก็บรักษาและศึกษาพระธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือพระไตรปิฎก หอไตรก็คือห้องสมุดสำหรับพระสงฆ์ศึกษาพระธรรมนั่นเอง ในล้านนานิยมทำเป็นอาคารสองชั้น บางแห่งจะตั้งอยู่กลางน้ำใช้สะพานไม้พาดชั่วคราวสำหรับเดินแล้วชักเก็บได้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันปลวกและแมลงอื่นไปกัดกินพระไตรปิฎกซึ่งเป็นใบลานใบข่อยหรือกระดาษ ส่วนหอไตรที่ทำเป็นสองชั้นนั้น ชั้นบนจะใช้เป็นที่เก็บพระธรรมคัมภีร์ทั้งหลาย ไม่มีทางขึ้นถาวร แต่จะใช้บันไดพาด เมื่อเลิกใช้ก็เก็บบันได ชั้นล่างใช้เป็นที่อ่านศึกษาพระธรรมที่ขึ้นไปเอามาจากชั้นบน อ่านเสร็จก็เอาขึ้นไปเก็บที่ชั้นบน

เฮือนแป เป็นห้องจัดเลี้ยงและสัมมนากลางแจ้ง ล้อมรอบบริเวณด้วยอาคารค้าขายแบบล้านนาที่เรียกว่า เฮือนแป มีเวทีขนาดใหญ่ประดับด้วยฉากฉลุลายเงิน ห้องละ 357,500 บาท สามารถจุได้ 550 คน ตรงส่วนนี้ใช้เป็นที่กินขันโตกสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการครับ

ข่วงหงส์คำ เป็นห้องจัดเลี้ยงและสัมมนากลางแจ้ง กลางบริเวณเป็นศาลาขนาดใหญ่ ประดับตกแต่งหลังด้วยหงส์คำตามแบบศิลปะล้านนา รายล้อมบริเวณด้วยทิวแถวต้นไผ่ ให้บรรยากาศเสมือนอยู่ในชนบทล้านนาอันงดงาม ห้องละ 162,500 บาท สามารถจุได้ 250คน

ศาลา เป็นห้องจัดเลี้ยงและห้องสัมมนาขนาดใหญ่ มีเวทีอยู่ตรงกลางห้อง โดยแบ่งห้องออกเป็นสองฟาก ประดับตกแต่งเวทีด้วยลายฉลุขนมปังปิงตามความนิยมในยุคโคโนเนียลของล้านนาเมื่อ 100 ปีที่แล้ว ห้องละ 143,000 บาท สามารถจุได้ 220 คน

ลานชาวเขา ห้องการแสดง ที่ครบครันด้วยระบบแสงเสียง อยู่ในบรรยากาศอาคารล้านนาหลังคาซ้อนชั้น ราคา 5,000 บาท/วัน (เฉพาะเวลากลางวัน 06.00 – 19.00 น.) สามารถจุได้ 500 คน

นอกจากนี้ภายในศูนย์ยังมีร้านขายของที่ระลึกอยู่หลายร้าน ร้าอาหารและร้านกาแฟ รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ ใครสนใจก็สามารถแวะไปกันได้ที่ ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ ถนนทิพย์เนตร ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่