เปิดตำนานวีรสตรีแห่งแม่อาย อนุสาวรีย์เจ้าแม่มะลิกาสถานที่ตั้ง : ฐานเจ้าแม่มะลิกา ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : 20.039334,99.30409
อำเภอแม่อาย เป็นอำเภอที่ตั้งอยู่เหนือสุดของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ติดกับชายแดนประเทศเมียนม่าร์ และจังหวัดเชียงราย เป็นเมืองเงียบๆ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวโดดเด่นมากมาย อาทิ
วัดท่าตอน วัดสวยที่สุดในจังหวัด รวมถึงสวนส้มยอดนิยม
สวนส้มธนาธร มีพระธาตุพันปีอย่าง
พระธาตุสบฝาง อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิด
แม่น้ำกก แม่น้ำสายหลักของจังหวัดเชียงราย เกิดเป็นโปรแกรมท่องเที่ยวล่องเรือตามสายน้ำกก เริ่มจากอำเภอแม่อายเข้าสู่ตัวเมืองเชียงราย แต่สิ่งหนึ่งที่มีความน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่เอ่ยชื่อมา นั้นก็คือ ต้นกำเนิดของชื่ออำเภอ
แม่อาย ชื่อนี้มีความเป็นมาเช่นไรนั้น ผมได้เรียบเรียงตามคำบอกเล่าและเรื่องราวต่างๆ ทางประวัติศาสตร์มาแล้ว
แม่อาย หลายคนเคยได้ยินชื่อนี้จากละครชื่อดังในอดีต ชื่อว่า แม่อายสะอื้น ในส่วนเนื้อหาของละคร ผมไม่ขอกล่าวถึง เพราะผมก็ไม่เคยดูเหมือนกัน แต่ตามตำนานกล่าวว่า ..ในอดีต ณ เมืองฝาง (อำเภอฝางปัจจุบัน) ผู้ปกครองเมืองฝางนามว่า
พระเจ้าฝางและพระชายา นามว่า
พระนางสามผิว เป็นผู้ที่มีผิวกายงดงามสามเวลา ดั่งดอกไม้สามชนิด คือ ดอกมะลิ ดอกบัว และดอกกุหลาบ ทั้งสองพระองค์ได้ให้กำเนิดบุตรี นามว่า
หนูน้อยมะลิกา พระธิดาองค์นี้มีผิวกายที่งดงามดั่งเช่นพระมารดา แต่มีตำหนิ คือริมพระโอษฐ์แหว่ง (ปากแหว่ง)
ครั้นต่อมา
พระนางมะลิกา โตเป็นสาวมีชันษาได้ 18 ปี ทรงมีพระสิริโฉมงดงาม ชื่อเสียงลือกระฉ่อนทำให้มีราชบุตรต่างเมืองมากมายมาสู่ขอ แต่พระนางไม่สนพระทัยและไม่พบปะผู้ใด เหตุที่เกรงว่าจะเห็นตำหนิของพระนางที่ใบหน้า พระเจ้าฝาง ผู้เป็นราชบิดาจึงได้สร้างเมืองให้ใหม่ ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองฝาง สร้างเสร็จราวปี พ.ศ. 2150 (เทียบกรุงศรีอยุธยาในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ) ตั้งชื่อเมืองใหม่นี้ว่า
เวียงมะลิกา ตามชื่อของราชธิดา ภายในเวียงมะลิกาประกอบด้วยสวนหลวง คุ้มหลวง คูน้ำ ป้อมปราการ 4 ทิศ พร้อมประตูทั้ง 4 ด้าน ที่สำคัญคือเวียงแห่งนี้ไม่มีบุรุษเพศเลยแม้แต่คนเดียว ผู้คนล้วนแต่เป็นสตรีทั้งสิ้น เป็นสตรีรูปร่างกำยำคอยปกป้องเวียงมะลิกา โดยมีพระนางมะลิกาทรงฝึกฝนพลธนูด้วยพระองค์เอง ทำให้เวียงมะลิกามีชื่อเสียงการยิงธนูที่ว่าแม่นนักดั่งจับวาง จนเป็นที่ลือชากึกก้องระบือไกล
เรื่องราวมาเข้าหูของ
ราชบุตรเวียงภูก่ำ แคว้นไทใหญ่ ทำให้อยากประสบพบเจอกับพระนางมะลิกาผู้เลอโฉมและยิงแม่น แรงแห่งบุพเพสันนิวาสเกิดขึ้นจึงเสด็จไปเวียงมะลิกาเยี่ยงสามัญชนคนค้าขาย โดยข่าวการเสด็จของราชบุตรไทใหญ่ทราบถึงพระนางมะลิกา พระองค์เกิดเขินอายไม่กล้าให้เข้าพบ ในวันที่ราชบุตรเข้าเฝ้าถวายอัญมณี พระนางจึงเสด็จหลีกลี้ไปสรงน้ำลำห้วย และได้ให้พระพี่เลี้ยงในเวียงรับเสด็จแทน เมื่อราชบุตรในรูปของพ่อค้าเข้าเฝ้า พระพี่เลี้ยงก็กล่าวว่าพระนางไม่ทรงปรารถนาให้ชายใดเข้าพบ พ่อค้าจึงจำต้องลากลับเวียงภูก่ำด้วยความโทมนัส ขณะที่พระนางมะลิกาสรงน้ำอยู่ในลำห้วยจึงเกิดทรงละอายพระทัย ต่อมาชาวบ้านต่างเรียกลำห้วยแห่งนั้นว่า "แม่น้ำอาย" หรือ "
แม่อาย" มาจวบจนปัจจุบัน
.. อีกสันนิษฐานหนึ่งว่ากันว่า จากที่ราชบุตรได้เห็นพระพักตร์ของพระนางมะลิกา แล้วได้ตกใจกับตำหนิที่บริเวณปาก ทำให้ราชบุตรผงะหนีจากไป พระนางจึงเกิดความเสียใจเป็นอย่างมาก จากนั้นก็ไม่ยอมออกไปพบปะผู้คน อาศัยอยู่แต่ภายในเวียง จึงเป็นที่มาของคำว่า แม่อาย จากตำนานดั่งกล่าว ต่อมากระทรวงมหาดไทยจึงนำมาตั้งเป็นชื่อ
อำเภอแม่อาย
เรื่องราวยังไม่จบอย่าเพิ่งลุกไปไหน .. วีรกรรมของพระนางได้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2172 ทัพพม่ายกเข้าตีเมืองฝาง พระนางมะลิกาได้ยกไพร่พลสตรีผู้เก่งกล้าเข้าต่อสู้กับพม่า ช่วยพระราชบิดาต้านทานได้นานถึง 3 ปี จนในที่สุดก็ต้านไม่ไหวเพราะมีกำลังพลที่น้อยกว่า พระเจ้าฝางและพระชายาสิ้นพระชนม์ ส่วนพระนางมะลิกาได้พาไพร่พลที่เหลือกลับไปที่เวียงมะลิกา ครองเวียงอยู่ได้ 40 ปี ได้ทรงสวรรคตในปี พ.ศ. 2190 รวมพระชนมายุได้ 58 ปี ต่อมาได้มีการจัดสร้าง
อนุสาวรีย์พระนางมะลิกาขึ้นบริเวณที่ตั้งของ
ศาลหลักเมืองแม่อาย เพื่อระลึกถึงวีรกรรมคุณงามความดีของพระนาง ให้เป็นที่เคารพสักการะของชาวอำเภอแม่อายและบุคคลทั่วไปมาตราบจนทุกวันนี้
by Traveller Freedomติดตามบทความ
สถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอแม่อาย ได้ดังนี้
พระธาตุสบฝาง www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/index.php/topic,7895.msg37645/topicseen.html#msg37645สวนส้มธนาธร www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/index.php/topic,7964.0.html#.U9fKOvl_sig