ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
พฤศจิกายน 27, 2024, 02:25:38 PM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ประกาศ  โพสหัวข้อเดียวซ้ำๆ กัน รับสิทธิ์ โดนลบกระทู้ และโชคดีได้รับสิทธิ์แบนฟรี 90 วันครับ


จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: วัดอุโมงค์ “สวนพุทธธรรม” อุโมงค์พุทธสถานหนึ่งเดียวของไทย 0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: วัดอุโมงค์ “สวนพุทธธรรม” อุโมงค์พุทธสถานหนึ่งเดียวของไทย  (อ่าน 5422 ครั้ง)
lady darika
Full Member
***
กระทู้: 232


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2014, 12:56:09 AM »


วัดอุโมงค์ “สวนพุทธธรรม” อุโมงค์พุทธสถานหนึ่งเดียวของไทย

วัดอุโมงค์ตั้งอยู่ที่เชิงดอยสุเทพ ด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทางเข้าวัดสามารถใช้ถนนสุเทพ หรือถนนเลียบคลองชลประทานก็ได้ แต่แนะนำถนนสุเทพด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สะดวกที่สุด จากสี่แยกหลังมอ มุ่งหน้าสู่ดอยสุเทพ สังเกตซ้ายมือจะเห็นป้ายวัดอุโมงค์สีฟ้า เข้าไปในซอยประมาณ 2 กิโลเมตร


ความเป็นมาของวัดนี้ต้องเท้าความกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 1839 หลังจากพญามังราย พ่อขุนรามคำแหง และพ่อขุนงำเมือง กษัตริย์สามสหายสร้างเมือง “นพบุรีศรีนครพิงค์” หรือเชียงใหม่ในปัจจุบันแล้วเสร็จ พญามังรายศรัทธาในพระพุทธศาสนามาก จึงส่งคนไปนิมนต์พระลังกา 5 รูป โดยมีพระกัสสปะเถระเป็นหัวหน้า แล้วอาราธนาคณะสงฆ์ลังกาให้จำพรรษาที่วัดแห่งวัดเวฬุกัฏฐาราม หรือวัดอุโมงค์ในปัจจุบัน ซึ่งสร้างขึ้นใหม่เพื่อรับรองคณะสงฆ์นี้โดยเฉพาะ



พระพุทธศาสนาในดินแดนล้านนาค่อยๆ เสื่อมลงหลังพญามังรายสวรรคต กระทั่งรัชสมัยพระเจ้ากือนาธรรมมิกราช หรือพญากือนา พระองค์ทรงฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง ทรงบูรณะวัดเวฬุกัฏฐาราม สร้างอุโมงค์ที่มีทางเชื่อมต่อกัน 4 ช่อง ทางทิศเหนือของเจดีย์ แล้วจึงอาราธนาพระมหาเถระจันทร์มาจำพรรษาที่วัดนี้ ตั้งชื่อใหม่ว่า “วัดอุโมงค์เถรจันทร์”

บรรยากาศร่มรื่นในวัดอุโมงค์ "สวนพุทธธรรม"

เสาหัวสิงห์ จำลองมาจากเสาพระเจ้าอโศกในอินเดีย

ต่อมาพระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ท่านได้รับการอาราธนาจากสวนโมกข์ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ให้มาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ (2492-2509) ท่านเป็นที่รู้จักในฐานะพระสงฆ์ผู้ปฏิรูปแนวทางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศไทย วัดห่งนี้เปลี่ยนชื่อใหม่จาก “วัดอุโมงค์เถรจันทร์” เป็น วัดอุโมงค์ “สวนพุทธธรรม” ตามสภาพพื้นที่ในบริเวณวัดที่เป็นป่าผืนใหญ่

รูปปั้นหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ

เมื่อเดินทางมาถึงวัดอุโมงค์เพื่อนๆ จะพบกับความสงบร่มรื่น ประหนึ่งกำลังเดินเข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติ แตกต่างจากวัดในตัวเมืองโดยสิ้นเชิง วัดนี้เป็นวัดสายปฏิบัติธรรม นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมจึงควรสำรวมกิริยาเป็นพิเศษ แนะนำให้จอดรถเอาไว้ที่ลานจอดรถบริเวณทางเข้าวัด เนื่องจากมีอุบาสก อุบาสิกา ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติกำลังปฏิบัติธรรมอยู่ ใช้สองเท้าก้าวเดินชื่นชมความร่มรื่นดีกว่าค่ะ

รูปปั้นหลวงพ่อพุทธทาส อินทปัญโญแห่งสวนโมกขพลาราม

ภายในวัดมีป้ายบอกสถานที่ชัดเจน ไม่ต้องกลัวหลง เดินจากปากทางเข้ามาด้านในประมาณ 5 นาทีก็จะพบไฮท์ไลท์ของวัด “อุโมงค์” สร้างขึ้นในสมัยพญากือนา โดยมีอุโมงค์ทั้งหมด 4 ช่อง มีทางเดินเชื่อมต่อกัน 3 ช่องแรกจะอยู่ด้านหน้า ส่วนอีกช่องหนึ่งอยู่ด้านหลัง นับได้ว่าเป็นการก่อสร้างอุโมงค์เพื่อเป็นพุทธสถานแห่งเดียวในไทย แต่ละอุโมงค์มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ คาดว่ามีอายุประมาณ 500-600 ปี หลากหลายลวดลาย เช่น หงส์จีน นกยูง นกกระสา ดอกโบตั๋น ลายบัว เป็นต้น แต่ในปัจจุบันลบเลือนไปมากเหลืออยู่เพียงไม่กี่จุด ซึ่งจิตรกรรมลักษณะนี้แตกต่างจากวัดอื่นที่จะเล่าเรื่องพุทธประวัติ แต่จิตรกรรมที่วัดอุโมงค์เป็นลวดลายต่างๆ ซ้ำไปซ้ำมา

เจดีย์เก่าแก่ที่วัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรม

อุโมงค์สำหรับปฏิบัติธรรม ที่มาของชื่อวัด

พระเจดีย์ อยู่เหนืออุโมงค์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างสุโขทัย ล้านนา และพม่า  สันนิษฐานว่าสร้างประมาณต้นพุทธศตวรรษที่ 20 องค์เจดีย์ตั้งอยู่บนฐานกลีบบัว 4 ชั้น องค์เจดีย์ทรงระฆัง อิทธิพลสุโขทัย ส่วนบนปลียอดศิลปะพม่าแบบพุกาม ไม่มีฉัตร ต่อมาได้รับการบูรณะในสมัยพระเมืองแก้วโดยการปรับปรุงปลียอดเป็นศิลปะพม่ายุคหลัง

ภายในอุโมงค์มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่

ลวดลายภาพจิตรกรรมอันลางเลือน


หลังจากชื่นชมอุงโมงค์และพระเจดีย์แล้ว ทางทิศใต้มีสระน้ำขนาดใหญ่ มีเกาะขนาดเล็กอยู่ตรงกลางสามารถเดินข้ามสะพานไปให้อาหารนกพิราบได้ แต่ต้องระวังนกถ่ายมูลใส่หัวด้วยนะคะ นอกจากนั้นภายในวัดยังมีสถานที่ที่น่าสนอีกหลายจุด เช่น ลานเศียรพระพุทธรูปหินสลักสกุลช่างพะเยา พ.ศ.1950-2100 โรงปริศนาธรรม หอสมุดธรรมโฆษณ์ พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติฯ เป็นต้น



นับได้ว่าวัดอุโมงค์เป็นวัดที่น่าไปเยือนอีกแห่งหนึ่ง ไม่ว่าในฐานะของนักท่องเที่ยว หรือนักปฏิบัติธรรม เพื่อนๆ คนใดที่กำลังใจว้าวุ่น กำลังมีความทุกข์ ลองหาเวลานุ่งขาวห่มขาว มาปฏิบัติธรรมที่วัดนี้กันดูนะคะ เผื่ออะไรๆ จะได้ดีขึ้น

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  903

บันทึกการเข้า
auto
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 5733


**Chiang Mai, I love you**


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2014, 09:40:25 AM »


ขอบคุณครับ  :onio:
บันทึกการเข้า

parsuk
Hero Member
*****
กระทู้: 1447


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2014, 09:42:22 AM »


เป็นอีก วัดเชียงใหม่ ที่น่าไปสักการะ


* wat_umong_chiangmai_1.jpg (135.68 KB, 614x350 - ดู 1808 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

touring
Full Member
***
กระทู้: 147



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2014, 10:10:50 AM »


วัดอุโมงค์ “สวนพุทธธรรม” อุโมงค์พุทธสถานหนึ่งเดียวของไทย

วัดอุโมงค์ตั้งอยู่ที่เชิงดอยสุเทพ ด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทางเข้าวัดสามารถใช้ถนนสุเทพ หรือถนนเลียบคลองชลประทานก็ได้ แต่แนะนำถนนสุเทพด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สะดวกที่สุด จากสี่แยกหลังมอ มุ่งหน้าสู่ดอยสุเทพ สังเกตซ้ายมือจะเห็นป้ายวัดอุโมงค์สีฟ้า เข้าไปในซอยประมาณ 2 กิโลเมตร


ความเป็นมาของวัดนี้ต้องเท้าความกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 1839 หลังจากพญามังราย พ่อขุนรามคำแหง และพ่อขุนงำเมือง กษัตริย์สามสหายสร้างเมือง “นพบุรีศรีนครพิงค์” หรือเชียงใหม่ในปัจจุบันแล้วเสร็จ พญามังรายศรัทธาในพระพุทธศาสนามาก จึงส่งคนไปนิมนต์พระลังกา 5 รูป โดยมีพระกัสสปะเถระเป็นหัวหน้า แล้วอาราธนาคณะสงฆ์ลังกาให้จำพรรษาที่วัดแห่งวัดเวฬุกัฏฐาราม หรือวัดอุโมงค์ในปัจจุบัน ซึ่งสร้างขึ้นใหม่เพื่อรับรองคณะสงฆ์นี้โดยเฉพาะ



พระพุทธศาสนาในดินแดนล้านนาค่อยๆ เสื่อมลงหลังพญามังรายสวรรคต กระทั่งรัชสมัยพระเจ้ากือนาธรรมมิกราช หรือพญากือนา พระองค์ทรงฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง ทรงบูรณะวัดเวฬุกัฏฐาราม สร้างอุโมงค์ที่มีทางเชื่อมต่อกัน 4 ช่อง ทางทิศเหนือของเจดีย์ แล้วจึงอาราธนาพระมหาเถระจันทร์มาจำพรรษาที่วัดนี้ ตั้งชื่อใหม่ว่า “วัดอุโมงค์เถรจันทร์”

บรรยากาศร่มรื่นในวัดอุโมงค์ "สวนพุทธธรรม"

เสาหัวสิงห์ จำลองมาจากเสาพระเจ้าอโศกในอินเดีย

ต่อมาพระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ท่านได้รับการอาราธนาจากสวนโมกข์ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ให้มาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ (2492-2509) ท่านเป็นที่รู้จักในฐานะพระสงฆ์ผู้ปฏิรูปแนวทางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศไทย วัดห่งนี้เปลี่ยนชื่อใหม่จาก “วัดอุโมงค์เถรจันทร์” เป็น วัดอุโมงค์ “สวนพุทธธรรม” ตามสภาพพื้นที่ในบริเวณวัดที่เป็นป่าผืนใหญ่

รูปปั้นหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ

เมื่อเดินทางมาถึงวัดอุโมงค์เพื่อนๆ จะพบกับความสงบร่มรื่น ประหนึ่งกำลังเดินเข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติ แตกต่างจากวัดในตัวเมืองโดยสิ้นเชิง วัดนี้เป็นวัดสายปฏิบัติธรรม นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมจึงควรสำรวมกิริยาเป็นพิเศษ แนะนำให้จอดรถเอาไว้ที่ลานจอดรถบริเวณทางเข้าวัด เนื่องจากมีอุบาสก อุบาสิกา ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติกำลังปฏิบัติธรรมอยู่ ใช้สองเท้าก้าวเดินชื่นชมความร่มรื่นดีกว่าค่ะ

รูปปั้นหลวงพ่อพุทธทาส อินทปัญโญแห่งสวนโมกขพลาราม

ภายในวัดมีป้ายบอกสถานที่ชัดเจน ไม่ต้องกลัวหลง เดินจากปากทางเข้ามาด้านในประมาณ 5 นาทีก็จะพบไฮท์ไลท์ของวัด “อุโมงค์” สร้างขึ้นในสมัยพญากือนา โดยมีอุโมงค์ทั้งหมด 4 ช่อง มีทางเดินเชื่อมต่อกัน 3 ช่องแรกจะอยู่ด้านหน้า ส่วนอีกช่องหนึ่งอยู่ด้านหลัง นับได้ว่าเป็นการก่อสร้างอุโมงค์เพื่อเป็นพุทธสถานแห่งเดียวในไทย แต่ละอุโมงค์มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ คาดว่ามีอายุประมาณ 500-600 ปี หลากหลายลวดลาย เช่น หงส์จีน นกยูง นกกระสา ดอกโบตั๋น ลายบัว เป็นต้น แต่ในปัจจุบันลบเลือนไปมากเหลืออยู่เพียงไม่กี่จุด ซึ่งจิตรกรรมลักษณะนี้แตกต่างจากวัดอื่นที่จะเล่าเรื่องพุทธประวัติ แต่จิตรกรรมที่วัดอุโมงค์เป็นลวดลายต่างๆ ซ้ำไปซ้ำมา

เจดีย์เก่าแก่ที่วัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรม

อุโมงค์สำหรับปฏิบัติธรรม ที่มาของชื่อวัด

พระเจดีย์ อยู่เหนืออุโมงค์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างสุโขทัย ล้านนา และพม่า  สันนิษฐานว่าสร้างประมาณต้นพุทธศตวรรษที่ 20 องค์เจดีย์ตั้งอยู่บนฐานกลีบบัว 4 ชั้น องค์เจดีย์ทรงระฆัง อิทธิพลสุโขทัย ส่วนบนปลียอดศิลปะพม่าแบบพุกาม ไม่มีฉัตร ต่อมาได้รับการบูรณะในสมัยพระเมืองแก้วโดยการปรับปรุงปลียอดเป็นศิลปะพม่ายุคหลัง

ภายในอุโมงค์มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่

ลวดลายภาพจิตรกรรมอันลางเลือน


หลังจากชื่นชมอุงโมงค์และพระเจดีย์แล้ว ทางทิศใต้มีสระน้ำขนาดใหญ่ มีเกาะขนาดเล็กอยู่ตรงกลางสามารถเดินข้ามสะพานไปให้อาหารนกพิราบได้ แต่ต้องระวังนกถ่ายมูลใส่หัวด้วยนะคะ นอกจากนั้นภายในวัดยังมีสถานที่ที่น่าสนอีกหลายจุด เช่น ลานเศียรพระพุทธรูปหินสลักสกุลช่างพะเยา พ.ศ.1950-2100 โรงปริศนาธรรม หอสมุดธรรมโฆษณ์ พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติฯ เป็นต้น



นับได้ว่าวัดอุโมงค์เป็นวัดที่น่าไปเยือนอีกแห่งหนึ่ง ไม่ว่าในฐานะของนักท่องเที่ยว หรือนักปฏิบัติธรรม เพื่อนๆ คนใดที่กำลังใจว้าวุ่น กำลังมีความทุกข์ ลองหาเวลานุ่งขาวห่มขาว มาปฏิบัติธรรมที่วัดนี้กันดูนะคะ เผื่ออะไรๆ จะได้ดีขึ้น

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  903


:onio: :onio: :onio:
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ขึ้นบน พิมพ์ 
จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: วัดอุโมงค์ “สวนพุทธธรรม” อุโมงค์พุทธสถานหนึ่งเดียวของไทย « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  




Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.5 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.164 วินาที กับ 20 คำสั่ง