หลายคนอาจจะบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ว่าการมาเที่ยววัดมันมีอะไรหน้าดึงดูดใจนักหนา เพราะไม่ว่าจะไปไหน ก็เจอแต่พระพุทธรูป โบสถ์ วิหาร และเจดีย์เออ คุณครับ วัดนะครับ ไม่ใช่ผับโคโยตี้ จะได้มีสาวๆมาดิ้น ฉะนั้นเรื่องจะให้เลือดลมฉีดพล่านอย่าได้ถามหา
เอางี้ สำหรับใครคือบุคคลกลุ่มที่ผมอ้างถึงย่อหน้าแรก ถ้าหากคุณได้ลองมาสัมผัสดู ลองเปิดใจได้พบเห็นอะไรหลายๆอย่างในวัดมากกว่าพระพุทธรูป โบสถ์ วิหาร และเจดีย์ที่พล่ามไป แล้วลองมาทำบุญ ไหว้พระ นั่งสมาธิ (ดำปะการังไม่ต้อง) มันจะทำให้คุณรู้สึกสบายใจ และดูสงบขึ้นแน่นอน ส่วนศาสนสถานเรื่องนั้นที่คุณบ่นว่าเบื่อ สิ่งที่คุณจะได้จากมันแน่ๆ ยิ่งกว่าแช่แป้ง คือเรื่องศิลปะ และสถาปัตยกรรม เหมือนอย่างที่ผมเคยทำตอนมาเที่ยววัดพระธาตุหริภุญชัย
วัดพระธาตุหริภุญชัย วัดคู่บ้านคู่เมืองชาวลำพูน เป็นหนึ่งในวัดที่ผมมาบ่อยที่สุดแล้วในจังหวัดลำพูน ถ้าให้นับก็คงประมาณ 5-6 ครั้ง เห็นจะได้ วัดนี้ถือเป็นวัดที่มีความสวยงามกันมากๆครับ โดยสิ่งที่น่าสนใจในวัดเด่นๆ ก็จะมีกันดังต่อไปนี้
เข้ามาอย่างแรกเลยที่จะเจอ คือ ซุ้มประตูก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัด ที่ก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายวิจิตรพิสดาร เป็นฝีมือโบราณสมัยศรีวิชัย ประกอบด้วยซุ้มยอดเป็นชั้น ๆ เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนเป็นสง่า บนแท่น สูงประมาณ 1 เมตร สิงห์คู่นี้ปั้นขึ้นใน สมัยพระเจ้าอาทิตยราช เมื่อทรงถวายวังให้เป็นสังฆาราม
ถัดมาจากนั้นเมื่อผ่านซุ้มประตู ก็จะเป็นวิหารหลวง วิหารหลังใหญ่ที่มีพระระเบียงรอบด้าน และมีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่า ซึ่งถูกพายุพัดพังทลายไปเมื่อ พ.ศ. 2466 วิหารหลวงใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศล และประกอบศาสนากิจทุกวันพระ ภายในวิหารประดิษฐานพระปฏิมาใหญ่ ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง บนแท่นแก้วรวม 3 องค์ และพระพุทธ ปฏิมาหล่อโลหะขนาดกลางสมัยเชียงแสนชั้นต้น และชั้นกลางอีกหลายองค์
เขยิบกันมาถึงด้านหลังวิหาร จากนั้นทุกท่านก็จะเจอกับ พระบรมธาตุหริภุญชัยแบบเต็มๆตา โดยพระบรมธาตุหริภุญชัย เป็นเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ ที่ลงตัวสวยงาม ประกอบด้วยฐานปัทม์ แบบฐานบัวลูกแก้ว ย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม บัลลังก์ย่อเหลี่ยม ซึ่งมองๆไปแล้ว เจดีย์จะมีลักษณะใกล้เคียงกับพระธาตุดอยสุเทพ
สำหรับพระบรมธาตุนี้นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งในล้านนาไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งในวันเพ็ญ เดือน 6 จะมีงานนมัสการ และสรงน้ำพระธาตุทุกปี
ส่งท้ายกันด้วย พระสุวรรณเจดีย์ ที่ตั้งอยู่ทางขวาของพระบรมธาตุ ที่สร้างขึ้นโดยพระนางปทุมวดี อัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช ภายหลังเมื่อสร้างพระธาตุฯ แล้วเสร็จได้ 4 ปี พระสุวรรณเจดีย์องค์นี้ มีลักษณะรูปแบบเป็นพระปรางค์ 4 เหลี่ยม จากฝีมือช่างละโว้ มีพระพุทธรูปประจำซุ้มฝีมือแบบขอม ยอดพระเจดีย์มีทองเหลืองหุ้มอยู่ ภายใต้ฐานชั้นล่างเป็นกรุบรรจุพระเปิม ซึ่งเป็นพระเครื่องชนิดหนึ่ง
เบ็ดเสร็จ นั่นคือสิ่งที่น่าสนใจในวัดแห่งนี้ ซึ่งหากใครได้มาสัมผัสทั้งทางกายและใจจากการมาไหว้พระ ทำบุญ รับรองคุณจะรู้สึกสงบจิตสงบใจอย่างบอกไม่ถูก
ผู้เขียน